SCC - ซื้อ

SCC - ซื้อ

ขาดทุนสินค้าคงคลังทำกำไรลด

เราเชื่อว่าตลาดได้รับรู้ถึงผลขาดทุนของสินค้าคงคลังที่จะกดดันกำไรในไตรมาส 4/61 แล้ว ในมุมมองของเรากำไรหรือขาดทุนจากสินค้าคงคลังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในระยะยาวอย่างมีสาระสำคัญ นอกจากนี้ด้วยอัตราผลตอบแทนเงินปันผลปัจจุบันอยู่ในระดับน่าสนใจ เราจึงไม่คิดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลงจากผลประกอบการที่อ่อนแอในไตรมาส 4/61 เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ผลขาดทุนของสินค้าคงคลังจำนวนมากกดดันกำไรในไตรมาส 4/61

เราคาดการณ์ว่ากำไรในไตรมาส 4/61 ของ SCC อยู่ที่ 8.2 พันล้านบาท ลดลง 35% YoY และ 13% QoQ กำไรที่ปรับลดลงทั้ง YoY และ QoQ ส่วนใหญ่มาจากการประมาณการผลขาดทุนของสินค้าคงคลังประมาณ 2.5 พันล้านบาทในธุรกิจปิโตรเคมีตามการปรับลดลงของราคาปิโตรเคมีและต้นทุนวัตถุดิบ ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างน่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น ในขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์น่าจะเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง

ธุรกิจปิโตรเคมียังคงอ่อนแอ

เราประมาณการกาไรของธุรกิจปิโตรเคมีในไตรมาส 4/61 อยู่ที่ 4.8 พันล้านบาท ลดลง 49% YoY และ 36% QoQ นอกจากผลขาดทุนจานวนมากของสินค้าคงคลังแล้ว ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงทั้ง YoY และ QoQ โดยค่าเฉลี่ยของส่วนต่างราคา HDPE อยู่ที่ 629 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในไตรมาส 4/61 ลดลงจาก 656 เหรียญสหรัฐต่อตันในไตรมาส 4/60 และ 683 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในไตรมาส 3/61 เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้น ส่วนต่างราคา PVC-EDC/C2 ก็ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่เพียง
333 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในไตรมาส 4/61 จาก 436 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในไตรมาส 4/60 และ 370 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในไตรมาส 3/61 เนื่องจากราคา EDC ที่สูงขึ้น แต่มีเพียงส่วนต่างราคา PP ที่ขยายตัวเล็กน้อยทั้ง YoY และ QoQ มาอยู่ที่ 640 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในไตรมาส 4/61 เนื่องจากอุปทานที่ตึงตัว

ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างเริ่มฟื้นตัวชัดเจน

ความต้องการใช้ซีเมนต์ในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 5-6% YoY ในไตรมาส 4/61 หนุนโดยการใช้ซีเมนต์ทีเพิ่มขึ้นในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐรวมถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์จากโครงการที่อยู่อาศัยและพาณิชย์ ราคาปูนซีเมนต์สุทธิน่าจะทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้น 3% YoY นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าอุปสงค์ในประเทศสำหรับผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัย
และกระเบื้องเซรามิกในไตรมาส 4/61 จะขยายตัว YoY เป็นครั้งแรกในรอบห้าปี เนื่องจากมีโครงการที่อยู่อาศัยและพาณิชย์หลายโครงการเข้าสู่ขั้นตอนการตกแต่ง เราคาดว่ากำไรของ CBM จะเติบโตเป็นสองเท่า YoY มาอยู่ที่ 2 พันล้านบาทในไตรมาส 4/61

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์เติบโตต่อเนื่อง

ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษในอาเซียนที่เติบโตต่อเนื่องรวมถึงแผนการลดต้นทุนของ SCC น่าจะส่งผลให้กำไรของธุรกิจบรรจุภัณฑ์เติบโต 48% YoY มาอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาทในไตรมาส 4/61 การเติบโตมีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 2-3 ปีข้างหน้า จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของกล่องพัสดุในอุตสาหกรรมค้าปลีกออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึง
แผนของ SCC ที่จะขยายธุรกิจปลายน้ำซึ่งผลิตสินค้าที่มีมูลค่าและอัตรากำไรที่สูงขึ้น