'ภูมิใจไทย' ยัน​ ชาวนาขายข้าว​ได้กำไร 70% ทำได้จริง​

'ภูมิใจไทย' ยัน​ ชาวนาขายข้าว​ได้กำไร 70% ทำได้จริง​

“ภูมิใจไทย” ยัน​ชาวนาขายข้าว​ได้กำไร 70% ทำได้จริง​ “อนุทิน” ลั่น​สะกดคำว่า​ “ทำไม่ได้” ไม่เป็น​​ ชี้​นโยบายปากท้องเป็นเงื่อนไขร่วมรัฐบาล​ พร้อมขู่​ หากเป็นฝ่ายค้าน​ ฝ่ายบริหารอยู่ลำบาก​ โวได้ส.ส. พระนครศรีอยุธยา ยกจังหวัด

เมื่อวันที่ 11 ม.ค.62 ที่วัดท่าซุงทักษิณา​ราม​ จ.พระนครศรีอยุธยา​ นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ หัวหน้าพรรคภูมิใจ​ไทย​(ภท.)​ เดินทางมาพบประชาชนและนำเสนอนโยบาย​ โดยมีแกนนำพรรคภท.และอดีตส.ส.เข้าร่วม อาทิ​ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค​ นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รองหัวหน้าพรรค นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร​ รองหัวหน้าพรรคและอดีตส.ส.พระนครศรีอยุธยา​ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ​ โฆษกพรรค นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ อดีตส.ส.สระบุรี นายภราดร​ ปริศนานันทกุล​ ​ อดีตส.ส.อ่างทอง​ และนายชาญ​ พวงเพ็ชร์​ อดีตนายกองค์การบริหาร​ส่วนจังหวัด(อบจ.)​ปทุมธานี ทั้งนี้​ บรรยากาศการปราศรัยเป็นไปอย่างคึกคัก​ มีประชาชนร่วมรับฟังกว่า​ 5,000​ ค​น​

นายอนุทิน กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า​ วันนี้พรรคภท.มีความพร้อมเต็มที่​ และจะทำงานหามรุ่งหามค่ำ​จนพี่น้องเห็นใจ​ และเรามีจุดยืนชัดเจน​ คือไม่เล่นการเมือง​ ไม่ขัดแย้งหรือเป็นศัตรู​กับใคร​ เพราะความขัดแย้งไม่ทำให้คนไทยรวยขึ้น​ แต่ทำให้ประชาชนสูญเสียโอกาส​ โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้​ เราเสนอนโยบายข้าวระบบกำไรแบ่งปัน​ และผลักดันให้มีการตั้งกองทุนข้าว​ ซึ่งทำได้จริง เพราะเป็นหลักการที่ทำมา​ 35 ปี กับอ้อยและน้ำตาลทราย​ โดยพระราช​บัญญัติ​(พ.ร.บ.)​อ้อยและน้ำตาลทราย​ปี​ 2527 ด้วยการแบ่งกำไร​70 % ให้แก่ชาวไร่อ้อย และโรงงานน้ำตาล 30 % ซึ่งเมื่อปรับใช้กับข้าว​ ยกตัวอย่าง เช่น​ ปี​ 2561​ รัฐบาลประกาศราคาข้าวหอมมะลิขั้นต้นที่​ 15,000​ บาท/ตัน​ ระบบกำไรแบ่งปัน​ จะทำให้ชาวนาได้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงสี และผู้ส่งออกเป็นเงินประมาณ​ 1,000-1,500 บาท/ตันรวม​ชาวนาอาจได้เงินสูงสุด 16,500 บาท/ตัน​ ส่วนราคาข้าวขาว​ในปี​ 2561 อยู่ที่​ 7,900 บาท/ตัน​ เมื่อบวกส่วนแบ่งกำไรจากโรงสีและผู้ส่งออก ชาวนาจะได้เงินเพิ่ม 800​ บาท/ตัน รวม 8,700 บาท/ตัน​ เป็นต้น​

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า​ อย่างไรก็ตาม​ มีคนวิจารณ์ความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติของนโยบายข้าวกำไรแบ่งปัน แต่พรรคยืนยันว่าได้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด​ มั่นใจว่าทำแล้วไม่มีใครเสียเปรียบ​ หากใครมาร่วมรัฐบาลแล้วไม่เอาด้วยกับนโยบายของเรา​ แสดงว่าเขาไม่เอาความต้องการของพี่น้องประชาชน​ ดังนั้น​ เราจะถือว่าเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล​ แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายค้าน​ รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้​

“มีผู้หลักผู้ใหญ่​มาทักว่า​ ไม่ควรไปเชื่อ​ จะทำไม่ได้​ พรรคภูมิใจไทย​ พวกผม​ ผู้บริหารพรรค​ สะกดคำว่าทำไม่ได้ไม่เป็น​ ตั้งแต่เกิดมา​ ไม่เคยมีเรื่องใดที่ทำไม่สำเร็จ​ แต่เราถือว่าการวิจารณ์เป็นการสั่งสอนและตอกย้ำให้พวกเราขยัน​ ทำให้มีกำลังใจ​ เวลาใครบอกว่าทำไม่ได้​ เรายิ่งต้องพยายามมากขึ้น​”นายอนุทินกล่าว

จากนั้น​ นายอนุทินได้แนะนำผู้สมัครส.ส.​พระ​นครศรี​อยุธยา​ อาทิ​ เขต​ 1 นายเกื้อกูล​ เขต​ 2 นายกุมพล​ สภาวสุ​ เขต​ 3 นายสุรศักดิ์​ พันธ์เจริญ​วรกุล​ เป็นต้น​ โดยนายอนุทินแสดงความมั่นใจว่าด้วยนโยบายการแก้ปัญหาปากท้อง​ ไม่ขัดแย้งกับใคร​ และไม่เล่นการเมือง​ จะทำให้ภูมิใจไทยได้ส.ส.พระ​นครศรี​อยุธยา​ยกจังหวัด