สรรพากรเก็บภาษีไตรมาสแรกทะลุเป้า7%
กรมสรรพากรเผยยอดจัดเก็บรายได้ไตรมาสแรกปีงบ 62 เกินเป้า 7.3% และสูงกว่าปีก่อน 11.3% ผลจากนำเข้าและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น คาดทั้งปีเก็บได้ตามเป้า 2 ล้านล้านบาท
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากรเผยว่าผลจัดเก็บภาษีสรรพากรสะสมในช่วงไตรมาสที่ ๑ ของปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม - ธันวาคม 2561)ว่า จัดเก็บได้ 4.12 แสนล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 4.17 หมื่นล้านบาท หรือ 11.3% และสูงกว่าประมาณการ 2.8 หมื่นล้านบาท หรือ 7.3%
สาเหตุที่การจัดเก็บภาษีสรรพากรสูงกว่าประมาณ เนื่องจากการขยายตัวของการนำเข้าและราคาน้ำมันเฉลี่ยที่สูงขึ้นได้ส่งผลดีต่อการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า อีกทั้ง มีปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ที่ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีสรรพากรเพิ่มขึ้น ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวดีตามแนวโน้มโครงการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น ยอดขายอสังหาริมทรัพย์และการโอนจำหน่ายรถยนต์ที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง รวมถึง การเพิ่มขึ้นของเงินเดือนภาคเอกชนและจำนวนผู้มีงานทำ เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมสรรพากรได้มีมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี โดยนำเทคโนโลยี Data Analytics มาช่วยวิเคราะห์ เพื่อหาผู้ประกอบการรายใหม่ซึ่งอยู่นอกระบบ บูรณาการข้อมูลภายในและภายนอก เพื่อเชื่อมโยงไปยังรายได้ที่แท้จริงของผู้ประกอบการ ปรับปรุงระบบการคัดเลือกผู้เสียภาษีเพื่อกำกับและตรวจสอบ (Risk Base Audit System: RBA) เพื่อให้ระบบมีความสมบูรณ์ครบถ้วน และปรับปรุงระบบ Criteria เพื่อคัดกรองรายผู้ประกอบการที่มีความผิดปกติให้หน่วยปฏิบัติตรวจสอบข้อเท็จจริงและแนะนำภาษีอากรต่อไป รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งรัดหนี้ภาษีอากร
"จากผลจัดเก็บภาษีดังกล่าว ทำให้คาดว่าในปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพากรจะสามารถจัดเก็บได้ตามเป้าหมายจัดเก็บตามเอกสารงบประมาณ 2562 จำนวน 2 ล้านล้านบาท โดยกรมสรรพากรจะเร่งนำเทคโนโลยีมาช่วยในการทำงาน เพื่อขยายฐานภาษีและสร้างความสมัครใจในการเสียภาษี ช่วยให้การจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรมีประสิทธิภาพต่อไป”
