บ.ญี่ปุ่นมองเวียดนามน่าลงทุนที่สุดในเอเชีย-ไทยติดที่4

บ.ญี่ปุ่นมองเวียดนามน่าลงทุนที่สุดในเอเชีย-ไทยติดที่4

ผลสำรวจของเอ็นเอ็นเอเผย บริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินกิจการในเอเชียมองว่า เวียดนาม เป็นจุดหมายด้านการลงทุนที่น่าดึงดูดใจที่สุด เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูง รวมถึงสถานะอันแข็งแกร่งในฐานะศูนย์กลางการผลิตและตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่

จากจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 630 คนที่ทำงานในบริษัทญี่ปุ่นทั่วเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และออสเตรเลีย พบว่า 35.7% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกเวียดนามเป็นประเทศที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มสดใส สูงกว่าอันดับสองอย่างอินเดีย ที่ระดับ 17.8%

“เมื่อเราวางรากฐานในเวียดนาม เราจะสามารถขยายการดำเนินงานของเราออกสู่กัมพูชา ลาว และเมียนมาได้” เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นรายหนึ่งที่อยู่ในอุตสาหกรรมนอกภาคการผลิต กล่าว

สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า จากการสำรวจที่จัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.-9 ธ.ค. 2561 ศักยภาพการเติบโตในระดับสูงของอินเดียยังคงดึงดูดนักลงทุนญี่ปุ่น โดยผู้ตอบแบบสอบถาม มีความเห็นว่า เศรษฐกิจของอินเดียสามารถฟันฝ่าอุปสรรคจากการยกเลิกธนบัตรที่มีมูลค่าสูงและการเรียกเก็บภาษีสินค้าและบริการมาได้

ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามชาวญี่ปุ่น ที่ทำงานอยู่ในภาคการผลิตกำลังจับตาศักยภาพการเติบโตของอินเดีย พร้อมระบุถึงปัจจัยบวกจากจำนวนประชากรและรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่มากขึ้นจากการกำหนดกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม

ผลสำรวจยังระบุว่า จีน เป็นจุดหมายด้านการลงทุนที่น่าสนใจเป็นอันดับ 3 โดยได้รับคะแนน 7.9% ลดลงจาก 12.6% ในการสำรวจในปี 2560 โดยได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ

ส่วนไทยติดอันดับแหล่งน่าลงทุนเป็นอันดับ 4 ด้วยคะแนน 7.3% โดยนักลงทุนที่ชื่นชอบประเทศไทยระบุถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่นำโดยภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ และไทยมีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมในการเริ่มโมเดลธุรกิจใหม่ๆ

นอกจากนี้ อินโดนีเซีย ได้รับความสนใจจากนักลงทุนญี่ปุ่นเป็นอันดับ 5 โดยได้คะแนน 6.7% ส่วนเมียนมา ตามมาที่อันดับ 6 โดยมีคะแนน 6.5% ลดลงจาก 8.7% ในปีก่อนหน้านี้ โดยได้รับผลกระทบจากวิกฤตผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่