สมรภูมิแดนมังกร ของแสลง ‘แอ๊ปเปิ้ล-ซัมซุง’

สมรภูมิแดนมังกร ของแสลง ‘แอ๊ปเปิ้ล-ซัมซุง’

ผลประกอบการของ “แอ๊ปเปิ้ล อิงค์” ที่ซบเซาอย่างหนักในจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นชะตากรรมที่ไม่ต่างจากคู่แข่งสมาร์ทโฟนรายสำคัญอย่าง “ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์”

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้ทะยานครองอันดับ 1 ในตลาดจีน โดยการจำหน่ายมือถือเกือบทุก ๆ 5 เครื่องเป็นของซัมซุง 1 เครื่อง แต่ปัจจุบัน ซัมซุงกลับไม่ติด 3 อันดับแรกด้วยซ้ำ ด้วยส่วนแบ่งไม่ถึง 1% ในตลาดสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่ที่สุดของโลก

นอกจากนั้น ซัมซุงยังเลิกจ้างพนักงานท้องถิ่นและปิดโรงงานสมาร์ทโฟนในจีน 2 แห่งเมื่อเดือนที่แล้ว

แม้มีนักวิเคราะห์น้อยคนที่คาดว่ายอดขายที่ลดลงในจีนของแอ๊ปเปิ้ลจะส่งผลกระทบรุนแรง แต่ภาวะตกต่ำของซัมซุงก็ถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับบรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต่างชาติ

ซัมซุง ซึ่งยังคงเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลก พ่ายแพ้ต่อกลยุทธ์ของเหล่าคู่แข่งสัญชาติจีนที่จำหน่ายมือถือคุณสมบัติใกล้เคียงกันในราคาที่ถูกกว่า ยอดขายที่ลดลงของบริษัทเกาหลีใต้รายนี้ยิ่งเลวร้ายลงไปอีกจากการเรียกคืนมือถือรุ่น “ซัมซุง กาแล็กซี่ โน้ต7” ที่มีปัญหาแบตเตอรี่ร้อนผิดปกติ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อแบรนด์อย่างมาก

นอกจากนั้น ประเด็นภูมิศาสตร์การเมืองยังส่งผลกระทบเช่นกัน หลังเกาหลีใต้ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธทางอากาศของสหรัฐในประเทศ ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่รัฐบาลปักกิ่ง จนนำไปสู่กระแสต่อต้านสินค้าแบรนด์เกาหลีใต้จากผู้บริโภคชาวจีน

ข้อมูลจากบริษัทวิจัย “เคาน์เตอร์พอยท์ รีเสิร์ช” ระบุว่า ยอดขายในจีนของแอ๊ปเปิ้ลแซงหน้าซัมซุงเมื่อปี 2558 คิดเป็นสัดส่วน 14% ของยอดขายมือถือในประเทศ หลังจากนั้น แอ๊ปเปิ้ลก็ประสบภาวะขาลง เนื่องจาก “หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ โค” และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเจ้าถิ่นรายอื่น ๆ เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาด ด้วยการเสนอสมาร์ทโฟนที่มีรูปลักษณ์และฟีเจอร์คล้ายกันแต่มีราคาถูกกว่า

เมื่อวันพุธ (2 ม.ค.) ที่ผ่านมา แอ๊ปเปิ้ลได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์รายได้ของตน โดยอ้างว่ามียอดขายซบเซาในจีน อย่างไรก็ตาม บริษัทอเมริกันรายนี้ยังคงมีแนวโน้มดีกว่าซัมซุงในตลาดแดนมังกร แบรนด์แอ๊ปเปิ้ลยังครองใจกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่ร่ำรวยมากขึ้นบางส่วน และยังรักษาส่วนแบ่งตลาดของตัวเองได้อย่างเหนียวแน่ อีกทั้งบริษัทยังผลิตไอโฟนในจีน ซึ่งช่วยสร้างงานได้จำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม โฆษกของทั้งซัมซุงและแอ๊ปเปิ้ลยังไม่ออกมาแสดงความเห็นต่อรายงานดังกล่าว

การที่ซัมซุงไม่สามารถฟื้นยอดขายในจีนได้ ตอกย้ำว่าบริษัทกำลังประสบกับช่วงเวลายากลำบาก ยอดขายสมาร์ทโฟนรวมของบริษัทลดลงเป็นหลักสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งแย่กว่าภาพรวมของทั้งอุตสาหกรรม และผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสล่าสุดสำหรับธุรกิจมือถือของซัมซุงลดลงไปถึง 1 ใน 3

“ซัมซุงเพิ่งพ่ายแพ้ในสมรภูมิจีน” ซันจีฟ รานา นักวิเคราะห์อาวุโสของบริษัทโบรกเกอร์ “ซีแอลเอสเอ” ในกรุงโซล กล่าว และว่า “ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะมีโอกาสกลับมาได้แล้ว”

ขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ชี้ว่าสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของแอ๊ปเปิ้ลในจีน ต่างจากสถานการณ์ของซัมซุงในหลายด้าน

ไอโฟนใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอสที่พัฒนาโดยแอ๊ปเปิ้ล ดังนั้นสำหรับบรรดาเจ้าของมือถือซัมซุงนั้นการเปลี่ยนมาใช้แบรนด์คู่แข่งจึงเป็นเรื่องยุ่งยากกว่า เพราะมือถือซัมซุงใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิล

นอกจากนั้น อีโคซิสเต็มของแอ๊ปเปิ้ลยังไม่เอื้อกับการใช้งานของผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากพวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่กับ “วีแชท” ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นแชท ชำระเงิน และโซเชียลมีเดียยอดนิยมจากบริษัทเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์

“ไอโฟนอาจไม่ใช่ตัวชี้วัดฐานะทางสังคมในจีนเหมือนที่เคยเป็นอีกแล้ว แต่แอ๊ปเปิ้ลยังสามารถเอาตัวรอดจากชื่อเสียงของแบรนด์ได้” มาร์ค แนตคิน กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษา มาร์บริดจ์ คอนซัลติงในกรุงปักกิ่งระบุ