ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการวันปีใหม่

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการวันปีใหม่

นักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า นักลงทุนพากันเทขายหุ้นในเดือนธ.ค. ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 265.06 จุด หรือ 1.15% เมื่อคืนวันจันทร์ (31ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของปี 2561 โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า การหารือทางการค้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก แต่ดาวโจนส์ยังคงทำสถิติปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในปีที่แล้ว นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกเมื่อ 10 ปีก่อนหน้านี้

เมื่อพิจารณาตลอดทั้งปี 2561 ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 5.6% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ทรุดตัวลง 6.2% และดัชนีแนสแด็กร่วงลง 3.9% โดยดัชนีทั้ง 3 ต่างปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งในปีดังกล่าว ดัชนีดาวโจนส์ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และดัชนีแนสแด็ก ทรุดลง 33.8%, 38.5% และ 40% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ปี 2561 ยังเป็นปีที่ดัชนีดาวโจนส์ และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และดัชนีแนสแด็ก ร่วงลงเป็นครั้งแรก หลังจากดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 6 ปี อีกทั้งปีที่แล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปรับตัวลง แม้ว่าสามารถดีดตัวขึ้นในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี