ศึกสองผู้เฒ่า ปฏิบัติการ 'ประภัตร' ยึดชทพ.

ศึกสองผู้เฒ่า ปฏิบัติการ 'ประภัตร' ยึดชทพ.

ศึกสายเลือดคนสุพรรณ ภายหลังสิ้นยุค “มังกรเติ้ง” บรรหาร ศิลปอาชา ส่งไม้ต่อไปให้ “ลูกท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา ตั้งใจจะรีแบรนด์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เข้าสู่ยุคคนรุ่นใหม่

ที่มีตัวเก๋าการเมืองคอยคุมทัพอยู่ข้างหลัง แต่บารมีไม่ถึงต้องปรับขบวนกันใหม่

เปลี่ยนมาชู “ลูกนา” กัญจนา ศิลปอาชา มาเดินนำขบวนแทน โดยมี “ประภัตร โพธสุธน” คอยคุมเกมขนาบข้างในตำแหน่งเลขาธิการพรรค มีเป้าหมายทำให้ชทพ.ได้เก้าอี้ส.ส.ไม่น้อยกว่า 25 ที่นั่ง เป็นพรรคการเมืองตัวแปรสู้กับ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ระยะหลัง “พลังสายเขียว” ไม่ค่อยพอใจ เกรงว่าจะใหญ่เกินไป จึงปั้นชทพ.มาแข่งสู้

ศึกสองผู้เฒ่า ปฏิบัติการ \'ประภัตร\' ยึดชทพ.

จึงเกิดปรากฏการณ์ดูดสลับขั้วกันอยู่ 2 พรรค ทั้งจากอ้อมอกชทพ.ย้ายมาภท. และจากภท.ย้ายมาซบชทพ. ต่างฝ่ายต่างก็รู้ทุกความเคลื่อนไหวของอีกฝั่งอย่างดี ข่าวปล่อยด้านลบจึงทยอยออกมาเรื่อยๆ

ยิ่งบารมีของ “ประภัตร” ใหญ่คับพรรคชทพ. บรรดาคนเคยใหญ่ที่แปรพักตร์ตีจากไป โดยเฉพาะ “ปริศนานันทกุล-อังคสกุลเกียรติ” ยังคับแค้นใจไม่หาย ที่ถูกถีบพ้นพรรค ย้อนศรมาเล่นงาน “ประภัตร” ทั้งเดินเกมบนดิน-ใต้ดิน

ศึกสองผู้เฒ่า ปฏิบัติการ \'ประภัตร\' ยึดชทพ.

ศึกยึดเมืองสุพรรณบุรีมีปัญหาอย่างหนัก เนื่องจาก “ประภัตร” ไม่ลงรอยกับ “เฮียจอง” จองชัย เที่ยงธรรม เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จำนวน เก้าอี้ส.ส. จ.สุพรรณบุรี ที่ลดลงจาก 5 เหลือ 4 ที่นั่ง ยิ่งทำให้ “สองผู้เฒ่า” กินแหนงแคลงใจกันหนักขึ้น

ศึกสองผู้เฒ่า ปฏิบัติการ \'ประภัตร\' ยึดชทพ.

“เฮียจอง” ที่ดอดไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ไว้ก่อนหน้านี้ ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะลงชิงเก้าอี้ ส.ส. เขต 3 จ.สุพรรณบุรี แข่งกับ “ประภัตร” เนื่องจาก “ประภัตร” ไม่ยอมหลีกทางให้ “เสมอกัน เที่ยงธรรม” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน หลังจะส่ง “ยุทธนา โพธสุธน” ลงแย่งเก้าอี้ในนามพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

ศึกสองผู้เฒ่า ปฏิบัติการ \'ประภัตร\' ยึดชทพ.

หากเกิดศึกช้างชนช้าง “ประภัตร” VS “จองชัย” ต้องลงมาห้ำหั่นกันเองชนิดตายกันไปข้าง ให้ระวังตาอยู่ที่เคยคว้าชัยมาแล้ว อย่าง “สหรัฐ กุลศรี” จากพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ฐานเสียงในพื้นที่มีมากไม่ใช่น้อย เคยชนะศึกเลือกตั้งปี 2554 ทำให้ “นายใหญ่” ลูบปากส่งวิวาทะถึง “มังกรเติ้ง” ว่าสุพรรณหมูมากมาแล้ว ภายหลัง “สหรัฐ” เอาชนะไปด้วยคะแนน 46940 ขณะที่นางมุกดา เที่ยงธรรมได้เพียง 36351 คะแนน

ศึกสองผู้เฒ่า ปฏิบัติการ \'ประภัตร\' ยึดชทพ.

ด้วยคะแนนที่ห่างหลักพันคะแนน “ประภัตร” ไม่ไว้วางใจตระกูล “เที่ยงธรรม” ว่าจะสามารถเอาชนะคู่แข่งจากค่ายสีแดงได้ จึงเตรียมแผนสำรอง ส่งตัวเองกับหลานชายลงสู้ เพราะคิดว่ารู้จักมักคุ้นกับหัวคะแนน-ประชาชนในพื้นที่มากกว่า อีกทั้งหวั่นใจว่าตระกูลเที่ยงธรรมจะทำแสบ ใส่เกียร์ว่างปล่อยให้คู่แข่งเฉือนเก้าอี้ ส.ส. ไป เหมือนครั้งที่แล้ว ซึ่งลือกันหนักว่า “มุกดา เที่ยงธรรม” ลงสมัครในนามพรรคชทพ. แต่ตอนหาเสียงกับชูหมายเลขของคู่แข่ง

ทว่า สูตรของ “ประภัตร” ที่ให้หลานซึ่งอยู่อีกพรรคมาลงสมัครแข่งกับพรรคตัวเอง ก็โหดร้ายมากเกินไป

บรรดาบิ๊กเนมในพรรคชทพ.เองก็รับไม่ได้ แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไรมาก เพราะทุนหลักไม่ได้อยู่ที่ตระกูลศิลปอาชาอีกต่อไป มีทุนหลายสายมาร่วมลงขันช่วยพรรคชทพ.

ศึกสองผู้เฒ่า ปฏิบัติการ \'ประภัตร\' ยึดชทพ.

และหากจำกันได้ด้วยสูตรของ “ประภัตร” เคยส่งสัญญาณไปที่ “ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ” ให้หลีกทางจาก ส.ส.เขต ไปอยู่ใน ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน แต่ “ณัฐวุฒิ” แข็งข้อใส่ย้ายพรรคจน “บิ๊กชทพ.” ทั้งคุณหญิง-คุณนายต่อสายง้อด้วยตัวเอง เพราะหากเสีย “ณัฐวุฒิ” ไปอาจจะไม่ได้กวาด ส.ส.สุพรรณบุรี ยกจังหวัดอย่างใจหวัง

บทสรุปสถานการณ์ร้าวลึกศึกตระกูลดังในเมืองสุพรรณ “ประภัตร” คุมเกมเบ็ดเสร็จยึดอำนาจจาก “ศิลปอาชา” สุพรรณบุรีสิ้น “มังกรเติ้ง” ไร้บารมีคุมพรรค