ตอบโจทย์สมาร์ทโฮม พัฒนา AI อำนวยความสะดวกการใช้ชีวิต

ตอบโจทย์สมาร์ทโฮม พัฒนา AI อำนวยความสะดวกการใช้ชีวิต

แสนสิริ ตอกย้ำผู้นำ Prop Tech รายแรกในไทย ชู สิริ เวนเจอร์ส ยกระดับ Sansiri Home Service Application ก้าวสู่อีกขั้นกับการพัฒนา AI บนสองแพลตฟอร์ม

อย่าง Sansiri Home Service Application และ Google Assistant ให้โต้ตอบได้ทันที รองรับโลกขยับสู่ยุค “สั่งการด้วยเสียง” ด้วย AI เต็มรูปแบบ พร้อมเล็งพัฒนาอีกหลากหลายฟีเจอร์ตอบโจทย์สมาร์ทโฮม และอำนวยความสะดวกการใช้ชีวิตแบบเอ็กซ์คลูซีฟแก่ลูกบ้านแสนสิริทุกโครงการทั่วประเทศ เตรียมเปิดใช้งานปี 62 พร้อมเผยหนุน GDG Thailand จัด Actions on Google Hackathon ตอบโจทย์ Smart Living 

นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด (SIRI VENTURES) บริษัทร่วมทุนระหว่างแสนสิริและธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อทำการวิจัยและลงทุนด้าน Prop Tech อย่างครบวงจรเต็มรูปแบบรายแรกของไทย บุกเบิกการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการวิจัยและลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ (Property Technologyหรือ Prop Tech) และเทคโนโลยีด้านการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิต (Living Tech) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมมือกับ ONIONSHACK สตาร์ทอัพผู้พัฒนาการสนทนาด้วยแชท เสียง และรูปภาพ ผ่านปัญญาประดิษฐ์ (AI)เร่งอัพเกรด AI บน 2 แพลทฟอร์มหลัก ได้แก่ Home Service Application ผู้ช่วยส่วนตัวในรูปแบบโมบายล์แอพพลิเคชั่นที่ให้บริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะลูกบ้านแสนสิริ Google Assistant ระบบผู้ช่วยของGoogle ที่ให้บริการบนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android โดยบริษัทมุ่งหวังให้ AI ดังกล่าว เป็นสุดยอดผู้ช่วยพูดได้ ที่คอยรับคำสั่งด้วยเสียง และช่วยเหลือผู้ใช้งานในเรื่องต่างๆ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในที่อยู่อาศัยอัจฉริยะ (สมาร์ทโฮม)

5_27

“ระบบสั่งการด้วยเสียง หรือ Voice Command เริ่มเป็นที่นิยมในประเทศไทย เราเห็นเทรนด์ผู้คนใช้งานระบบสั่งการด้วยเสียงมากขึ้น ในฝั่งผู้ผลิตเองก็มีการพัฒนาทั้งอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่รองรับระบบสั่งการด้วยเสียงออกวางจำหน่าย สิริ เวนเจอร์ส เชื่อว่าอีกไม่นานการใช้เสียงพูดคุยกับ AI รวมไปถึงการสั่งงานต่างๆ ภายในบ้านจะกลายมาเป็น Lifestyle ของคนในยุคปัจจุบัน เราจึงเร่งพัฒนา AI ที่สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ให้เรื่องการพูดคุยและสั่งการ AI ไม่ใช่เรื่องที่เห็นแค่ในภาพยนตร์อีกต่อไป” นายจิรพัฒน์ กล่าว

สำหรับฟีเจอร์ที่สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยบนแพลทฟอร์ม Home Service App ประกอบด้วย 4 กลุ่มบริการหลัก ได้แก่ Home Automation สั่งการอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับระบบสมาร์ทโฮม เช่น การสั่งปิดไฟ เปิดไฟ, Facility Booking จองคิวใช้บริการพื้นที่ส่วนกลาง, Check Outstanding Balance เช็คสถานะและยอดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องชำระ เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำประปา ค่างวดผ่อนโอนที่อยู่อาศัย Home Care แจ้งซ่อมและตรวจสอบสถานะการแจ้งซ่อม ขณะที่การสั่งการและพูดคุยกับ AI ของแสนสิริด้วยเสียงภาษาไทยบนแพลทฟอร์ม Google Assistant นั้น สามารถทำได้ 2 บริการหลัก คือ Check Outstanding Balance และ Home Care บริษัทกำลังเร่งพัฒนาให้สามารถสั่งการ Home Automation และ Facility Booking ได้ เช่นเดียวกับบนแพลทฟอร์ม Home Service App

นายจิรพัฒน์ กล่าวอีกว่า บริษัทเดินหน้าพัฒนาให้ AI ดังกล่าว เรียนรู้พฤติกรรมและเข้าใจมนุษย์มากยิ่งขึ้น คาดว่าปี 2562 เป็นต้นไป AI ดังกล่าว จะมีประโยคสนทนาคุยเล่นและโต้ตอบได้ด้วยคำพูดที่คล้ายคลึงกับมนุษย์มากขึ้น และจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องการจดจำเสียงผู้ใช้งาน ความเข้าใจโทนเสียง การจดจำพฤติกรรม และคำสั่งที่ใช้งานบ่อยๆ ของลูกบ้าน เพื่อให้สามารถดูแลและโต้ตอบได้แบบเหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละบุคคล นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ให้สามารถทำงานได้เพิ่มเติม เช่น การเช็คกล่องจดหมาย การเช็คสภาพอากาศ การเช็คอีเมล การค้นหาเบอร์โทรศัพท์ การส่งข้อความหานิติบุคคลโครงการที่ตัวเองอยู่อาศัย การสนับสนุนการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน ซึ่งแพลทฟอร์ม Google Assistantสามารถเชื่อมโยงการให้บริการกับหน่วยงานภายนอก (Third Party Service) เช่น การสั่งสินค้า การสั่งอาหาร ด้วย

2_66

ปัจจุบันแพลทฟอร์ม Home Service App ได้เข้าถึงลูกบ้านแสนสิริแล้วกว่า 2 หมื่นคนในโครงการของแสนสิริทั่วประเทศ ในอนาคตเชื่อว่าบริการดังกล่าว จะมีฐานผู้ใช้เติบโตขึ้นได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันแสนสิริมีลูกบ้านอยู่ราว 8 หมื่นถึง 1 แสนคนทั่วประเทศ และยังมีการพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

นายจิรพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้ บริษัทยังได้ร่วมมือกับ Google Developer Group Thailand (GDG Thailand) จัดงาน Actions on Google Hackathon เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ AIS Design Centre (AIS D.C.) ชั้น 5 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม โดยมีโจทย์ย่อยโจทย์หนึ่งคือเรื่อง Smart Living บริษัทคาดหวังว่า การจัดงานดังกล่าว จะมีส่วนช่วยให้เกิดการระดมไอเดียใหม่ๆ ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย และสามารถนำไปต่อยอดกับบริการของเครือแสนสิริได้

“ภารกิจของ สิริ เวนเจอร์ส ก็คือ การหานวัตกรรมใหม่ๆ มาให้ลูกบ้านแสนสิริ รวมถึงการลงทุนนวัตกรรมที่ส่งเสริมอีโคซิสเท็มในธุรกิจอสังหาฯ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างรอบด้านให้กับลูกบ้านแสนสิริ”นายจิรพัฒน์ กล่าว