ให้บุตรหลานพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ มอบทุนฯล้านที่ 2 'Grab the Future'

ให้บุตรหลานพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ มอบทุนฯล้านที่ 2 'Grab the Future'

"แกร็บ" สานต่อความสุขให้บุตรหลานพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ มอบทุนการศึกษา ล้านที่ 2 ในโครงการ Grab the Future

แกร็บมอบทุนสนับสนุนการศึกษาแก่บุตรพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่รวมมูลค่า 1 ล้านบาท ในโครงการ “Grab the Future” ครั้งที่ 2 เพื่อสนับสนุนการศึกษาของบุตรหลานพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่เป็นจำนวน 200 ทุน ภายในงานพิธีมอบทุนการศึกษาที่จัดร่วมกับสำนักงานประกันสังคม ภายใต้กระทรวงแรงงาน โดยนอกจากทุนการศึกษาแล้ว แกร็บยังสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ได้เข้าสู่ระบบประกันสังคมตามมาตรา 40 โดยมอบเงินสมทบ 3 เดือนแรก ให้กับผู้ขับขี่ทั้ง 200 รายอีกด้วย ภายในงานได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานประกันสังคมมาให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของประกันสังคม เพื่อให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ เข้าใจถึงสิทธิและประโยชน์ที่ตนจะได้รับจากการเป็นผู้ประกันตน

“เป็นที่ทราบกันดีว่าสำหรับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของพวกเรา ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าครอบครัว พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ทุกท่านทำงานหนักเพื่อมอบอนาคตที่ดีกว่าให้แก่ของบุตรหลานของพวกเขา ดังนั้นนอกจากที่เราจะดูแลสวัสดิการของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของเราแล้ว เรายังอยากที่จะช่วยดูแลครอบครัวของพวกเขาอีกด้วย เราจึงอยากแบ่งเบาภาระของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ ด้วยการสนับสนุนการศึกษาของบุตรหลาน และในขณะเดียวกัน สวัสดิภาพของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ก็เป็นเรื่องสำคัญ เราจึงสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่สมัครเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม เพื่อผ่อนคลายความกังวลของครอบครัว” นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าว

1_6

ครั้งนี้นับเป็นการเดินหน้าโครงการตอบแทนพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่ร่วมงานขับรถบริการกับแกร็บมาอย่างต่อเนื่อง กับโครงการ ‘Grab the Future’ เป็นครั้งที่ 2โดยในครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แกร็บได้มอบทุนจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการศึกษาของบุตรหลานพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ สำหรับ ‘Grab the Future’ ครั้งที่ 2 นอกจากให้ทุนการศึกษาเป็นล้านที่ 2 แล้ว แกร็บยังร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคม ภายใต้กระทรวงแรงงานเพื่อสร้างแรงจูงใจและผลักดันให้แรงงานนอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบประกันสังคมตามมาตรา 40 ซึ่งผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้กรณีเจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุและสวัสดิการด้านอื่นๆ โดยแกร็บมอบเงินสมทบประกันสังคม 3 เดือนแรก ให้กับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 200 ราย ซึ่งเปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่สามารถเลือกแผนที่เหมาะสมกับตนเองในระยะยาวอีกด้วย

นางสาวอำพัน ธุววิทย์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคมกล่าวว่า “นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่แกร็บ ประเทศไทย ได้นำร่องในการสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของแกร็บขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 พร้อมด้วยการสนับสนุนการจ่ายเงินสบทบ รวมถึงเชิญเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานประกันสังคมมาให้ความรู้ในวันนี้ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แรงงานนอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบประกันสังคม โดยผู้ประกันตนตามมาตรา40 จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีเจ็บป่วย ประสบอันตรายที่นำไปสู่ความทุพพลภาพ และอื่นๆ ภายใต้ระบบประกันสังคม เราให้ความสำคัญกับการที่คนไทยจะมีหลักประกันชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

หลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ได้รับเงินสมทบประกันสังคมมาจากประวัติการให้บริการแกร็บมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปีขึ้นไป หรือเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่สร้างรายได้ดีเด่นในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาและมีมาตรฐานการให้บริการที่ดีมาก ผู้ได้รับทุนการศึกษาได้รับเลือกจากหลักเกณฑ์เดียวกัน โดยมีคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมา คือพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่สมัครนั้นต้องมีบุตรที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา ในปีการศึกษา 2561 หรือ ปริญญาตรี ในปีการศึกษา 2562

3_49

จากสองครอบครัวผู้ได้รับทุนการศึกษา ได้บอกเล่าความรู้สึกที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ครอบครัวแรก คือ ครอบครัว  คุณเมฆ กองสิน  พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่แกร็บแท็กซี่พร้อมลูกสาว 1 คน “เรารู้สึกขอบคุณความมีน้ำใจของแกร็บมากๆที่เลือกมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เพราะค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาของลูกเป็นสิ่งที่ครอบครัวเรากังวล จริงๆ เราก็ขับกับแกร็บมาสักพักแล้ว เพราะเป็นช่องทางหารายได้เพิ่มเติมที่ดี แต่ยิ่งไปกว่านั้น เรารู้สึกขอบคุณที่ทางแกร็บใส่ใจดูแลสวัสดิภาพของเราเป็นอย่างดี”

น้องภิญญาภรณ์ กองสิน ผู้เป็นลูกสาว กล่าวว่า “คุณพ่อ เป็นฮีโร่ของหนู พ่อทำงานหลายชั่วโมงจนถึงดึกเพื่อส่งหนูเรียน ก็เลยภูมิใจในตัวพ่อ มากๆ เลยค่ะ”

ครอบครัวที่สองคือ ครอบครัวคุณสุทัศน์  อัศวณรงค์เดช พี่วินมอเตอร์ไซด์ที่ร่วมขับแกร็บไบค์มาอย่างยาวนาน ซึ่งมีลูกชาย 1 คน  มาร่วมขับแกร็บไบค์เพื่อจ่ายค่าเล่าเรียนให้ลูก “ปกติแล้วไม่ได้คิดถึงค่าใช้จ่ายสำหรับประกันสังคมของตัวเองเลยครับ แต่ตอนนี้เห็นถึงความสำคัญแล้วครับ เพราะไม่ใช่แค่เป็นการดูแลตัวเอง แต่เพื่อที่ครอบครัวของผมจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เวลาที่ผมออกไปทำงาน การที่แกร็บสนับสนุนทั้งค่าเล่าเรียนและเงินประกันสังคม ผมจึงรู้สึกขอบคุณมากที่แกร็บเข้าใจความกังวลของเราและครอบครัว พร้อมให้เราไปข้างหน้า”  คุณสุทัศน์กล่าว