ปตท.สผ.ตั้งงบลงทุนปีหน้า ราว1แสนกว่าล้านบ. พร้อมขยายโอกาสทางธุรกิจ

ปตท.สผ.ตั้งงบลงทุนปีหน้า ราว1แสนกว่าล้านบ. พร้อมขยายโอกาสทางธุรกิจ

"พงศธร" เผย ปตท.สผ. ตั้งงบลงทุนปีหน้าราว 1 แสนกว่าล้านบ. เน้นรักษากำลังการผลิตและเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียม พร้อมขยายโอกาสทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตในระยะยาว

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ. ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 ไว้ที่ 3,256 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.) (เทียบเท่า 107,453 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็นรายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure หรือ CAPEX) จำนวน 1,840 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 60,721 ล้านบาท) และรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure หรือ OPEX) จำนวน 1,416 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 46,732 ล้านบาท) ด้วยเป้าหมายปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยที่ 318,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ภายใต้การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการรักษาปริมาณการผลิต บริษัทได้จัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 1,159 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 38,247 ล้านบาท) ในโครงการผลิตหลักในประเทศไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (เมียนมาร์) ได้แก่ โครงการเอส 1 โครงการบงกช โครงการอาทิตย์ โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย และโครงการซอติก้า และจัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 490 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 16,170 ล้านบาท) ในการผลักดันการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ โครงการเวียดนาม บี และ 48/95 และเวียดนาม 52/97 และโครงการคอนแทร็ค 4 (แหล่งอุบล) ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองและการผลิตในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับกิจกรรมสำรวจโครงการในเมียนมาร์ และมาเลเซีย เพื่อเพิ่มโอกาสการเพิ่มทรัพยากร ผ่านการจัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 191 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 6,304 ล้านบาท)

"ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป จะเห็นแผนกลยุทธ์ของ ปตท.สผ. ในเชิงรุกมากขึ้น โดยจะสร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ บริหารต้นทุนการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยจะให้ความสำคัญกับธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจร (Gas Value Chain) เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้า (Gas to Power) รวมถึงการค้นหาธุรกิจใหม่อื่น ๆ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (Robotics / AI) และพลังงานทางเลือก (Renewable Energy) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน" นายพงศธร กล่าว