สรุปทุจริตครุภัณฑ์สพฐ.ส่งนิติกรแล้ว

สรุปทุจริตครุภัณฑ์สพฐ.ส่งนิติกรแล้ว

รมว.ศธ.เผยความคืบหน้าทุจริตครุภัณฑ์สพฐ. ระบุคกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปสำรวจส่งนิติกรแล้ว ย้ำดำเนินการตรงไปตรงมารอบคอบ

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) เปิดเผยถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้น ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)จำนวน279ล้านบาท ว่า ตามที่ได้มอบให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ.เป็นประธาน กลับไปทบทวนรายละเอียดของการเขียนสำนวนการสอบสวนในเรื่องนี้มาใหม่หลังพบความไม่สมบูรณ์ของการดำเนินการในการตรวจสอบ เช่น ระบุว่ารองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)โอนงบประมาณลงพื้นที่ก็กล่าวหาว่ากระทำผิด เลขาธิการกพฐ.สั่งไม่โอนงบประมาณก็ถูกระบุว่าทำผิดเช่นเดียวกัน เนื่องจากสั่งไม่ให้โอนงบประมาณ และตกลงสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร เป็นต้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่นิติกรของสำนักงานปลัด ศธ.ได้สรุปสำนวนมาใหม่นั้น

ทั้งนี้ เท่าที่ทราบคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สรุปสำนวนชี้แจงมาที่เจ้าหน้าที่นิติกรของสำนักงานปลัดศธ.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานสรุปจากเจ้าหน้าที่นิติกรว่ามีการชี้แจงมาอย่างไรบ้าง โดยต้องรอให้ฝ่ายนิติกรกลั่นกรองข้อมูลและสรุปให้ชัดเจนอย่างรอบด้านอีกครั้งก่อนที่จะเสนอตนพิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป ซึ่งขอย้ำว่าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาใครผิดก็ว่ากันไปตามความผิดและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

เพราะการแก้ปัญหาทุจริตประเด็นครุภัณฑ์ของสพฐ.นี้ จะเอาจริงเอาจังแน่นอน และต้องการให้เรื่องทุจริตหมดไป เรื่องนี้จะดำเนินการไม่ล่าช้าอย่างแน่นอน แต่ขอให้ใจเย็นๆเนื่องจากจะต้องมีขั้นตอนการตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นมวยล้มของจริง

“ผมยังไม่อยากเร่งรัดฝ่ายนิติกรให้เร่งสรุปสำนวนในเรื่องนี้ เพราะอยากให้กลั่นกรองข้อมูลอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดความรอบคอบ แต่เท่าที่ดูผมบอกเลยว่าเรื่องครุภัณฑ์สพฐ.ไม่มีอะไรยุ่งยากหรือซับซ้อน แต่หากเราไปเร่งรัดสรุปข้อมูลกลายเป็นว่าผมให้ข้อมูลแบบมั่วๆได้ ดังนั้นผมขอดำเนินการอย่างรอบคอบดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้หลุดจากข้อกฎหมายอีก” รมว.ศธ. กล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สำนักนิติการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) ได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อชี้ชัดให้เชื่อมโยงไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งเท่าที่ทราบคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ได้รายงานให้ทราบว่า โครงการนี้มีการล็อคสเปคแบบอย่างแน่นอน 100% ซึ่งก็เป็นข้อมูลที่ตรงกันกับคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงชุดที่มีนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ.เป็นประธาน ที่สรุปสำนวนมาให้ รมว.ศธ.พิจารณาว่าโครงการนี้มีการล็อคสเปคอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน