เจ้าของรพ.มาสเตอร์พีซพบตร. ไม่เกี่ยวคดีนมเน่า จ่อดำเนินคดีผู้แอบอ้าง

เจ้าของรพ.มาสเตอร์พีซพบตร. ไม่เกี่ยวคดีนมเน่า จ่อดำเนินคดีผู้แอบอ้าง

"นพ.ระวีวัฒน์" เจ้าของโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ชี้แจงโรงพยาบาลฯไม่เกี่ยวข้องกับคดีนมเน่า ระบุเตรียมดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบอ้างให้ถึงที่สุด

บก.ปคบ. - เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ธ.ค.2561 นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ชาญชล พรหมชนะ รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปคบ. เพื่อชี้แจงกรณีมีกลุ่มบุคคลแอบอ้างชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะให้สัมภาษณ์

ตามที่ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพจบนเฟซบุ๊ค ได้โพสต์ข่าวการจับกุม นางสาวดธินี ใจกุศล และ นางสาวหฤทัย รัตนวิไลสกุล ในข้อหา “ร่วมกัน ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายนั้นได้รับอันตรายสาหัสร่วมกัน ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ , โดยทุจริตหรือ โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา” โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้แอบอ้างและใช้ชื่อ ”โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายในภาพลักษณ์ด้านองค์กร และสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ ผู้บริโภค ผู้ใช้บริการ และ สังคม

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” จึงขอประกาศชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้

ในเวลาก่อนหน้านี้ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” ได้เปิดให้บริการสถานเสริมความงามภายใต้ชื่อ “มาสเตอร์ พีซ คลินิก” บริเวณสยามสแควร์ เขตปทุมวัน กทม. โดยเป็นการเช่าสถานที่ เพื่อประกอบกิจการและให้บริการด้านความงาม จนถึงเดือนพฤษภาคม 2561 มาสเตอร์พีซ คลินิก” จึงได้พัฒนาตัวเองเป็น “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” และคำนึงถึงความสะดวกของผู้ใช้บริการ และรองรับการพัฒนาตัวเองสาหรับกิจกรรมในอนาคต จึงได้ย้ายสถานที่ให้บริการมายัง ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กทม.

ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันนั้น ผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ.จับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ ทำการเช่าสถานที่ต่อ ณ ที่ตั้งเดิมของ “มาสเตอร์พีซ คลินิก” บริเวณสยามสแควร์ เพื่อเปิดเป็นสถานเสริมความงาม โดยขณะเดียวกันก็ได้แอบอ้างและใช้ชื่อของ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” ในการ ผ่าตัดศัลยกรรม ซึ่งสร้างความคลุมเครือให้แก่ผู้ใช้บริการ จนเป็นผลให้เกิดความเสียหาย และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” เป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ทาง “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” จึงขอเรียนว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม “โรงพยาบาล มาสเตอร์พีซ” จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอย่างถึงที่สุด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่หน่วยงานและผู้ใช้บริการต่อไป” นายแพทย์ ระวีวัฒน์ กล่าวในที่สุด