พปชร.ชี้บัตรคนจนช่วย11.4ล้านคน มุ่งช่วยมนุษย์เงินเดือนดันกองทุนบำนาญ

พปชร.ชี้บัตรคนจนช่วย11.4ล้านคน มุ่งช่วยมนุษย์เงินเดือนดันกองทุนบำนาญ

รองหัวหน้าพรรคพปชร. ย้ำช่วยคนจน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" 11.4 ล้านคนแล้ว มุ่งช่วยมนุษย์เงินเดือนดันกองทุนบำนาญเอกชน ชูเรื่องหลักประกันชีวิต

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.61 ที่จ.หนองคาย นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า เมื่อมีการปลดล็อคทางการเมือง 4 รัฐมนตรีในนามพปชร.พร้อมเดินหน้าทำงานการเมืองตามกรอบที่เหมาะสม โดยไม่ใช้เวลาในตำแหน่งหน้าที่ไปใช้ประโยชน์ต่อพรรค โดยพปชร. พร้อมหาเสียงเลือกตั้ง และจะเริ่มทยอยเดินหน้างานของพรรค เช่น การเปิดนโยบาย เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. เป็นต้น ยืนยันว่าจะลาออกจากตำแหน่งแน่นอนเมื่อถึงเวลา เพราะต้องการลงมาทำงานการเมืองเต็มตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ยังมีงานที่ต้องทำอยู่ในตอนนี้ และเวลานี้ก็คล้ายกับการอยู่ในสนามรบ จึงต้องเคลียร์งานให้แล้วเสร็จก่อนลาออก เราไม่ได้มองว่าแม้ลาออกก็โดนด่า ไม่ลาออกก็โดนด่า วันนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. 62 เมื่อถึงเวลาเราไปแน่นอน แต่ตอนนี้ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

นายสุวิทย์ กล่าวว่า ส่วนการทำไพรมารีโหวตเพื่อสรรหาผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯนั้น จะต้องมีการหารือกันในพรรคอีกครั้ง แต่ช่วงนี้แกนนำพรรคต่างมีภาระจำนวนมาก จึงไม่มีโอกาสได้คุยกัน และยังไม่ได้พูดคุยเรื่องดังกล่าวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นผู้ที่มีการคาดกันว่าจะถูกเสนอชื่อ อย่างไรก็ตาม วันนี้เมื่อมีการปลดล็อคการเมืองแล้ว คิดว่าน่าจะถึงเวลาที่จะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ได้แล้ว เพราะส่วนตัวไม่เคยคุยเรื่องนี้กับ พล.อ.ประยุทธ์ มีเพียงการพูดคุยกันเรื่องงาน

“ส่วนการจัดทำนโยบาย คิดว่าหลายนโยบายของรัฐบาลนี้ควรได้รับการสานต่อและพัฒนาต่อยอด เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ใช่การแจกเงินคนจนอย่างที่มีการกล่าวหา เพราะเมื่อประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอ ก็ต้องเติมให้ประชาชน เราต้องการสร้างสังคมประชารัฐ คนจะอดตายอยู่แล้ว คุณไม่เติมให้เขาได้ยังไง ต้องเติมให้ จากนั้นจึงให้เขาพัฒนาตัวเอง จึงต้องมีการต่อยอด จากที่ตอนนี้ผู้ถือบัตรมี 11.4 ล้านคน เราต้องมาดูว่าครอบคลุมหรือไม่ ขณะเดียวกัน ต้องช่วยมนุษย์เงินเดือนด้วย จึงต้องมีนโยบายอย่างกองทุนบำนาญเอกชน เราต้องการชูเรื่องหลักประกันชีวิต เพราะทุกอาชีพมีการเปลี่ยนแปลงทั้งนั้น นอกจากนี้ ยังต้องมีนโยบายด้านนวัตกรรม การเพิ่มพื้นที่พัฒนากระจายเศรษฐกิจด้วยการสร้างเมืองใหม่ เป็นต้น” นายสุวิทย์ กล่าว

เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุจะมีการโกงเลือกตั้ง และพรรค พปชร. มีการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีไว้แล้ว นายสุวิทย์ กล่าวติดตลกว่า “ใครคือคุณเฉลิม ผมไม่รู้จัก”