ไทยแอร์เอเชีย” รุกบิน10 เส้นทางรวดธ.ค.นี้

ไทยแอร์เอเชีย” รุกบิน10 เส้นทางรวดธ.ค.นี้

“ไทยแอร์เอเชีย” รุกบิน 10 เส้นทางรวดเดือน ธ.ค.นี้ เน้นบุกตลาดจีน-อินเดีย

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 4 จนถึงไตรมาสที่ 1 ถือเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญในการสร้างรายได้การท่องเที่ยวทั้งในระดับประเทศและสายการบิน และจากการที่ทั้งภาครัฐและเอกชนเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา ทางบริษัทได้เห็นสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวใหญ่ที่มีศักยภาพอย่างประเทศจีนและอินเดีย จึงเปิด

เส้นทางบินใหม่ ๆ ต่อเนื่อง โดยกระจายเป้าหมายทั้งเส้นทางบินตรงเชื่อมต่อสู่ฐานปฏิบัติการการบินในกรุงเทพฯ เชียงใหม่และกระบี่ ที่แข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตที่ดี

โดยในเดือนธันวาคมนี้สายการบินแอร์เอเชียจะเริ่มให้บริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์ถึง 10 เส้นทาง แบ่งเป็น 9 เส้นทางระหว่างประเทศ และ 1 เส้นทางภายในประเทศข้ามภาค ประกอบด้วย เส้นทางเชียงใหม่-ปักกิ่ง (จีน) เริ่มให้บริการ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

เส้นทางเชียงใหม่-หนานชาง (จีน) เริ่มให้บริการ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา เส้นทางกระบี่-มาเก๊า เริ่มให้บริการ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา

เส้นทางกระบี่-ฮ่องกง เริ่มให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 2 ธันวาคม เส้นทางกระบี่-ฉงชิ่ง (จีน) เริ่มให้บริการ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 7 ธันวาคม เส้นทางกรุงเทพฯ-คยา (อินเดีย) เริ่มให้บริการ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 3 ธันวาคม เส้นทางกรุงเทพฯ-ภุพเนศวร (อินเดีย) เริ่มให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 6 ธันวาคม เส้นทางกรุงเทพฯ-วิชาคาปัทนัม (อินเดีย) เริ่มให้บริการ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 7 ธันวาคม เส้นทางกรุงเทพฯ-โคลอมโบ (ศรีลังกา) เริ่มให้บริการ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 14 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป และเส้นทางขอนแก่น-อู่ตะเภา (พัทยา) โดยจะเริ่มให้บริการ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 21 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป

“เราตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวจีนและอินเดียกลับมาเที่ยวและใช้จ่ายที่ประเทศไทย และกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม แอร์เอเชียจะยังคงยึดมั่นในการเป็นผู้นำสายการบินราคาประหยัดที่พร้อมจะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ กับเส้นทางบินที่หลากหลายสำหรับทุกคน” นายสันติสุขกล่าว