คนยังนิยมถอนเงินสดจากบัตรเดบิต

มาตรการช้อปคืนแวต 5% วงเงินใช้จ่ายไม่เกิน 2 หมื่นบาท ที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติใช้ระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ.2562 ประเมินกันว่า นอกจากเป็นมาตรการที่หวังผลเชิงเศรษฐกิจแล้ว ยังหวังผลให้ประชาชนหันมาใช้บัตรเดบิตให้เป็นบัตรเดบิตมากขึ้น เพราะมาตรการนี้ให้สิทธิเฉพาะการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตเท่านั้น

ข้อมูลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า มูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิต มีสัดส่วนราว 88% ของมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมดในปี 2560 รองลงมา คือ บัตรเครดิต และบัตรประเภทอื่นๆ เช่น บัตรสินเชื่อส่วนบุคคล คิดเป็นสัดส่วน 11% และ 1% ตามลำดับ

แต่มูลค่าการใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นการใช้ผ่านเครื่อง เอทีเอ็ม เอดีเอ็ม และ ซีดีเอ็ม อีกทั้งเป็นธุรกรรมการถอนเงินสดและเบิกเงินสดล่วงหน้ามากกว่า ซึ่งจากข้อมูลสรุปได้ว่า ประชาชนยังนิยมใช้บัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตเพื่อการ “ถอนเงินสด” จากเครื่องเอทีเอ็มเป็นหลัก สะท้อนโดยนัยถึงพฤติกรรมที่ยังคงใช้เงินสดเป็นส่วนใหญ่

สำหรับภาพรวมการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ มีแนวโน้มชะลอลงมาโดยตลอด สะท้อนจากอัตราการเติบโตของมูลค่าและปริมาณธุรกรรมโดยรวมที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการโอนเงิน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้ใช้บริการเปลี่ยนพฤติกรรมไปโอนเงินผ่านเครือข่ายออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะโมบายแบงกิ้ง