สหการประมูล ประกาศยุทธศาสตร์บุกตลาดผู้ใช้งานทั่วไป

สหการประมูล ประกาศยุทธศาสตร์บุกตลาดผู้ใช้งานทั่วไป

พร้อมรีแบรนด์ดิ้ง ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม และเปิดตัวพรีเซ็นต์คนรุ่นใหม่ที่ชอบรถ คือ ดีเจ เพชรจ้า  พร้อมพลิกโฉมวงการประมูลเปิด “Market Place”  ตลาดกลางแห่งใหม่ที่เปิดกว้างให้กับสินค้าหลากหลายหมวด

นายสุวิทย์  ยอดจรัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  วันนี้ “สหการประมูล”  ได้ทำการสร้างตราสินค้าใหม่ หรือ รีแบรนด์ดิ้ง  เพื่อต้องการสื่อสารตรงไปยังกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปได้ทราบถึงข้อดีที่ตัดสินใจเลือกซื้อรถที่ได้มาจากการประมูล โดยจะได้ประโยชน์ต่างจากช่องทางการซื้อรถตลาดเดิมอย่างไรบ้าง  ซึ่งเป้าหมายระยะยาวของบริษัทฯ คือ  “สหการประมูล”  ต้องการที่จะเป็น “Market Place”  หรือตลาดกลางด้านการค้าขายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย  ซึ่งจะไม่ได้จำกัดเพียงแค่การประมูลรถยนต์เท่านั้น  แต่สินค้าทุกประเภทสามารถที่จะนำมาประมูลซื้อ-ขาย ใน “Market Place”  ของ “สหการประมูล” ได้ทุกประเภท 

3_20

ล่าสุดเปิดตัวพรีเซ็นต์ “ดีเจ เพชรจ้า”  ซึ่งบุคลิกของ “เพชรจ้า” เป็นตัวแทนที่สื่อไปถึงกลุ่ม ลูกค้าอย่างชัดเจน เนื่องจาก “เพชรจ้า” ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิต ชอบเล่นรถ และที่สำคัญรถที่ของ “ดีเจ เพชรจ้า”  ก็ยังเป็นรถที่ได้มาจากการประมูลรถจากกรมศุลกากร โดยผ่านสหการประมูล ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้คุณเพชรจ้า ถือว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ตรงจากการประมูลรถยนต์ และด้วยบุคลิกที่เหมาะสม  ทำให้บริษัทฯ มั่นใจและเชื่อมั่นในคุณเพชรจ้า  ในการเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของบริษัทฯ เพื่อเป็นตัวแทนในการสื่อสารตรงไปยังกลุ่มเป้าหมาย

พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวโฆษณา หรือ TVC ตัวใหม่เพื่อการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า สิ่งที่คาดหวังหลังจากโฆษณาชุดนี้ได้เผยแพร่ออกไป คือ การสร้างการรับรู้ของกลุ่มเป้าหมายทั้งใหม่และเก่าได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่อาจเคยมีคนเคยได้ยินชื่อของ “สหการประมูล”  รับรู้ว่าเป็นการประมูลรถ และคิดว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง  ด้วยการโฆษณาชุดนี้จะทำให้เริ่มกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อ ขาย รถยนต์ได้เด่นชัดมากขึ้น ได้สโลแกนง่ายๆ ที่ว่า “ซื้อง่าย ขายคล่อง ที่เดียวจบ ครบวงจร” เป็นสโลแกนที่กระชับได้ใจความที่ชัดเจน

2_27

นอกจากนี้ยังส่งแคมเปญส่งท้ายปี 61  “เพื่อนประมูล” ที่เป็นแคมเปญสนับสนุนกลุ่มลูกค้าทั่วไป      (end user) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแทนตัวของบริษัทฯคือ “เพื่อน” ที่จะช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นการ จัดหาสินเชื่อรถยนต์ การให้คำปรึกษาราคากลางในการ ซื้อ ขาย รถยนต์ การจัดหาอู่ในการแปลงสภาพรถเมื่อลูกค้ามีความต้องการที่จะปรับสภาพรถให้ดูดีขึ้น และอีกหลายๆ สิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุค 4.0 

ปิดท้ายเปิดตัวแอพพลิเคชั่น “AUCT Friend”  ซึ่งทางบริษัทฯ ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดรับกับตลาดยุค 4.0 และเพิ่มความสะดวกสบายในการค้นหาข้อมูลโดยเฉพาะข้อมูลของราคากลางที่ทาง “สหการประมูล” ได้ทำการรวบรวมไว้  เพื่อประกอบและเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์   ซึ่งถือได้ว่าข้อมูลสถิติที่เก็บรวมรวบถือเป็นถังข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) สำคัญที่ทางสหการประมูลได้รวบรวมไว้   อีกทั้งยังเป็นข้อมูลในส่วนของการประมูลออนไลน์ที่ได้พัฒนารูปแบบของแอพพลิเคชั่นให้รองรับทุกความต้องการในการ ซื้อ ขาย ประมูล รถยนต์ รวมรวบไว้ในแอพพลิเคชั่นเดียว

5_16

นอกจากนี้จัดประมูลประมูล iPad ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกับนำรถ 5 คัน มาร่วมประมูล และนำเงินมอบให้กับมูลนิธิ “เมาไม่ขับ” ซึ่งเป็นหนึ่งกิจกรรม CSR ที่ทางบริษัทฯ ได้จัดขึ้นเป็นประจำ  เพื่อเป็นประโยชน์ให้ทางมูลนิธินำไปใช้ต่อไป โดยมูลค่าในการบริจาคทั้งหมดอยู่ที่ 100,000บาทถ้วน คือรายได้จากการประมูลรถยนต์ 5 คัน เป็นจำนวน 40,000 บาท แล้วทางบริษัทฯ สมทบให้อีก 60,000 บาท

สำหรับแผนการและงบประมาณด้านการส่งเสริมการตลาดและภาพลักษณ์ในปี 2562  จะใช้การ      บูรณาการระหว่างสื่อออนไลน์และออฟไลฟ์ (off line) เข้าด้วยกันเพื่อการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสสุดท้ายของปี 61  บริษัทฯ เป็นการเปิดตัวบริษัทฯ ครั้งสำคัญและเปิดตัวยิ่งใหญ่  เพื่อต้องการสื่อสารและบ่งบอกถึงความเป็น “สหการประมูล” ในโฉมใหม่และในแบบ New Positioning  โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าทั่วไป (end user) ให้รับรู้ถึงความทันสมัย ความมั่นคงของบริษัทฯ และที่สำคัญ “Fair Value” นับเป็นไฮไลท์สำคัญในการสื่อสาร ที่บริษัทฯ ถือเป็นนโยบายหลักในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด  

6_8

จากการดำเนินมากว่า 27 ปี  ทางบริษัทฯ เน้นการทำธุรกิจแบบ B2B มาโดยตลอด และมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงเป็นอันดับ 1 ของตลาดประมูลรถยนต์ต่อเนื่องมาตลอด แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่เล็งเห็นกลุ่มตลาดผู้ใช้รถยนต์รายบุคคล หรือผู้ใช้งานทั่วไป (end user)  ซึ่งเป็นกลุ่มใช้รถจริงที่มีฐานใหญ่และมีมูลค่าทางการตลาดมหาศาล  ปัจจุบันจำนวนรถยนต์ป้ายแดงมีการซื้อขายในตลาดมากกว่า 9 แสนคัน  ส่วนตลาดรถยนต์มือสองที่มีหมุนเวียนในตลาดมากกว่า 2 ล้านคัน  ในช่วงแรกทางบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งประมาณ 4% ของจำนวนรถยนต์มือสองในตลาดรวม  ดังนั้นจึงมีผลต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่งกลุ่มดังกล่าวใช้การค้นหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อและข้อมูลต่างๆ ผ่านทางออนไลน์  

ทั้งนี้ทิศทางการเติบโตของสหการประมูลใน 3 ไตรมาสของปีมีผลประกอบการอยู่ในระดับดี มีอัตรากำไรเพิ่มขึ้น 54.33% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเป็นไปตามที่บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้  นายสุวิทย์ ยอดจรัส กล่าว