จับเด็กแว้น 56 คนไปอบรม สั่งบิ๊กไบค์เสียงดัง 63 คันห้ามใช้รถ 30 วัน

จับเด็กแว้น 56 คนไปอบรม สั่งบิ๊กไบค์เสียงดัง 63 คันห้ามใช้รถ 30 วัน

บก.น.1 จับเด็กแว้น 56 คนไปอบรม ตรวจร้านท่อไอเสียสั่งบิ๊กไบค์ 63 คันห้ามใช้รถ 30วัน

เมื่ีอเวลา 02.00 น.วันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 ที่บริเวณลานหน้าห้างศูนย์การค้าโชว์ดีซี ถนน จตุรทิศ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร. พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก. 5 บก.จร. พ.ต.อ.กฤตภาส กิตติรัฐกรณ์ ผกก.ฝอ.บก.จร. และพ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.มักกะสัน ร่วมกันแถลงผลการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. ตำรวจ บช.ปส. ตำรวจ บช.ทท. ตำรวจ บก.น.1 ตำรวจ บก.สปพ. และตำรวจ บก.จร.ได้สนธิกำลังร่วมกันปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.1 และจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ถ่ายทอดสดและโพสเฟสบุ๊คชักชวนให้เด็กและเยาวชนออกมารวมกลุ่มแข่งรถในทางสาธารณะที่ปรากฏตามสื่อต่างๆหลายแขนง

พล.ต.ต.เสนิต กล่าวว่า สืบเนื่องจากตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการแข่งขันรถในทางสาธารณะ โดย ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. เป็น หน.ชุดปฏิบัติการรองรับการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ดังกล่าว โดยในวันนี้ (10 พ.ย. )ได้ทำการกวาดล้างจับกุมเกี่ยวกับคดีลักษณะนี้

ด้าน พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวว่า โดยมีกรณีเมื่อวันที่ 23 ต.ค. เวลาประมาณ 21.30 น.ที่ผ่านมา ได้มีเด็กและเยาวชนออกมารวมกลุ่ม มั่วสุมกันแข่งรถในทางสาธารณะมีจำนวนกว่า 100 คัน ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมากบนถนนราชดำเนิน บริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ซึ่งได้มีภาพและวีดีโอปรากฏไปตามสื่อต่างๆ ต่อมาชุดปฏิบัติการปราบปรามกวดขันการแข่งรถในทางสาธารณะของ ตร. ร่วมกับ บก.จร. ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาพยานหลักฐานจนทราบว่าหัวโจกที่ถ่ายทอดสดการแข่งขันในรถในทางฯ คือ เพจ “สจ.บางซ่อนฯ” โดยมี นายก้องเกียรติ์ กิรติอิสริยะกุล เป็นเจ้าของเพจ และเพจ “แม็ก ดินแดง” โดย นายชัยณรงค์ ถ่ายพงษ์ เป็นเจ้าของเพจ ได้โพสชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวกันตามวัน เวลา ดังกล่าว ซึ่งต่อมาชุดปฏิบัติการจึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลแขวงดุสิต จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวต่อว่า จากนั้นทางตำรวจได้สืบสวนขยายผลจากภาพที่ปรากฎจากกล้องวงจรปิดจนได้พยานหลักฐานซึ่งเด็กและเยาวชนที่ออกมาขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะรวมกลุ่มมั่วสุมในคืนวันปิยมหาราช พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและส่งหมายเรียกนำผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วทั้ง 19 ราย และวันนี้เดินทางเข้ามอบตัวแล้ว 5 ราย หลังจากนี้จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวอีกว่า ซึ่งในวันที่ 9 พ.ย. ตำรวจได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.น.1 ปฏิบัติการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกวดขันและป้องกันการแข่งรถในทางสาธารณะซึ่งมีผลการปฏิบัติ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาแอดมินเพจตามหมายจับจำนวน 1 ราย จากการสืบสวนทราบว่ามีเพจ เฟซบุ๊กชื่อ “เบียร์ลาย ห้วยขวาง” มีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะที่ถนนราชดำเนิน บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งโดยในการแข่งขันครั้งนี้มีการรวมตัวกันมากกว่า 100 คัน และถ่ายทอดสดลงในเฟสบุ๊คซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นสนใจรับชมและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้พักอาศัยในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมากโดยเจ้าของเพจเฟสบุ๊คดังกล่าวคือ นายนภสินธุ์ สุทดิศ อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ” ดำเนินคดีตามกฎหมายหมายจับที่ 83 เพจที่ 99 ที่มีการถูกปิดไป

พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ตำรวจได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจค้นร้านท่อเสีย 18 ร้านและยึดท่อไอเสียไว้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ สมอ. จำนวน 13 รายการ ตลอดจนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติในการตรวจวัดระดับเสียงและการวัดค่ามาตรฐานที่ถูกต้องตามหลักสากล กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานขนส่งทางบก และสำนักงานสรรพสามิต พื้นที่ 3 ร่วมตรวจวัดระดับเสียงท่อไอเสียที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (95 เดซิเบล) ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากโดยตรวจรถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) จำนวนทั้งหมด 101 คัน พบมีท่อไอเสียเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานกำหนดจำนวน 63 คัน จึงได้ออกคำสั่งห้ามใช้รถเป็นเวลา 30 วัน รวมทั้งยังส่มารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. โดยได้ยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 80 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ 42 คัน รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 38 คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน 17 ราย ผู้ใหญ่ 39 ราย รวมทั้งหมด 56 ราย

“อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ บก.น.1 ให้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะและผู้ขับขี่รถจักรยายนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ว่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมายและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป” รรท.ผบก.จร. ระบุ