แกว่งตัวบริเวณ 1650-1680 จุด ก่อนขึ้นทดสอบ 1700 จุด

แกว่งตัวบริเวณ 1650-1680 จุด ก่อนขึ้นทดสอบ 1700 จุด

มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1680-1700 จุด แต่ระวังความผันผวนที่อาจสูงขึ้นจากแรงทำกำไร

ตลาดหุ้นโลกมีแนวโน้มบวกต่อเป็นวันที่สองจากปัจจัยการลงทุนหลายอย่างที่ผ่อนคลายลง ไม่ว่าจะเป็น ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี รวมถึงความคาดหวังต่อการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯที่มีโอกาสคลี่คลายในการประชุมเดือนหน้า ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนบางส่วนเริ่มหมุนกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม เรายังมองกรอบการฟื้นตัวค่อนข้างจำกัดจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเจรจาและการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯที่ยังสูง ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนทิศทางที่มีนัยสำคัญต่อตลาดการเงินโลกในเดือนหน้า

สำหรับตลาดหุ้นไทย ระยะสั้นขึ้นแรงโดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการซื้อคืนหุ้นที่ถูกขายชอร์ต (cover short) กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ รวมถึงบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมที่ผ่อนคลายขึ้น ทำให้ยังมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อ ทดสอบแนวต้าน 1680 และ 1700 จุดตามลำดับ โดยมีแนวโน้มจะเผชิญความผันผวนระยะสั้นที่สูงขึ้นจากแรงทำกำไรในหุ้นที่ปรับขึ้นเร็ว รวมทั้งจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบที่กดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ

กลยุทธ์การลงทุนยังแนะนำ selective buy ในหุ้นพื้นฐานดีและกลุ่มปลอดภัย (defensive) อาทิ สื่อสาร ไฟฟ้า กอง REIT รวมถึงหุ้นปันผลสูงที่คาดแข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวม อาทิ ADVANC, DTAC, CPALL, BCPG, CKP*, JASIF*, DIF*, BCP, ESSO* สำหรับหุ้นพลังงาน ทยอยสะสมหรือซื้อเมื่ออ่อนตัว

Investment Theme หุ้นใหญ่และกลุ่มหุ้นเลือกตั้ง BBL, SCB, STEC, CPALL, AMATA/ หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, DTC*, EASTW*, AEONTS* / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล CPNREIT, CPN, PSH, AP, SPF*, EA, BCPG

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวบริเวณ 1650-1680 จุด ก่อนขึ้นทดสอบ 1700 จุด เพิ่มความระวังหุ้นกลาง-เล็กที่คาดการณ์ผลการดำเนินงานไม่ได้ ซื้อขายที่แนวรับและเลือกเก็งกำไรเมื่ออ่อนตัว // หุ้นแนะนำวันนี้ CPALL, GUNKUL /เก็งกำไรสั้น BCP (เป้า 36 ตัดขาดทุน 31.25), CKP*(เป้า 5.40 ตัดขาดทุน 4.90), VNT (เป้า 24 ตัดขาดทุน 21.5) และ BWG* (เป้า 1.25 ตัดขาดทุน 1.14)

แนวรับ 1650 / แนวต้าน : 1680 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

ประเด็นการลงทุน

ส่งออกคาดต่ำเป้า แต่ดุลบัญชีเดินสะพัดยังเกินดุล – ธปท.คาดส่งออกปี 61 มีโอกาสต่ำกว่าคาดที่ 9% จากปริมาณการส่งออกที่คาดชะลอตัวในไตรมาส 4/61 ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.31 พันล้านเหรียญฯ จากเดือนก่อนที่เกินดุล 753 ลลล้านเหรียญฯ

หุ้นที่เป็นเป้าหมายซื้อคืน – หุ้นที่ถูกเปิดสถานะ short มากที่สุดในเดือน ต.ค. และมีโอกาสตกเป็นเป้าหมายการซื้อคืน ได้แก่ PTTEP, KBANK, PTTGC, BEAUTY, PTT, CPALL, TOP, IVL, MTC, SCB, EA, BBL, KTC, IRPC, AOT, ADVANC, BANPU, AMATA, TRUE, WORK, MINT, KTB, SCC, CBG, WHA

เยลเลนเตือนสหรัฐเผชิญปัญหาหนี้ - นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนว่าสหรัฐกำลังเผชิญกับภาระหนี้มากเกินไป และปัญหาดังกล่าวจะเลวร้ายลงในอนาคต ทั้งนี้สหรัฐขาดดุลงบประมาณ 7.79 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 17% จากปีที่แล้ว

 

ประเด็นติดตาม: 2 พ.ย. – ตัวเลขการจ้างงาน, ดุลการค้า สหรัฐฯ  / 6 พ.ย. – เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ / 30 พ.ย. – ประชุม G20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)