คปภ.เร่งรัดจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ถูกต้อง กรณีรถเก๋งพลิกคว่ำ 6 ศพ

คปภ.เร่งรัดจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ถูกต้อง กรณีรถเก๋งพลิกคว่ำ 6 ศพ

คปภ.เร่งรัดจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ถูกต้อง รวดเร็วและเป็นธรรม กรณีรถเก๋งพลิกคว่ำ 6 ศพ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์หมายเลขทะเบียน กต 583 ชัยภูมิ เฉี่ยวชนราวสะพานพลิกคว่ำบริเวณก่อนถึงสะพานข้ามคลอง 1 ถนนพหลโยธิน ขาออกมุ่งหน้าอำเภอวังน้อย (กม.53+50) หมู่ 9 ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 6 คน เป็นชาย 4 คน และหญิง 2 คน  เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นตนได้สั่งการให้สำนักงาน คปภ. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบและได้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยด้านประกันภัย ตลอดจนติดตามเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพื่อเยียวยาความสูญเสียโดยเร็ว

คปภ.เร่งรัดจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ถูกต้อง กรณีรถเก๋งพลิกคว่ำ 6 ศพ

เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นอย่างยิ่ง ในการดำเนินการสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ได้บูรณาการร่วมกับสำนักงาน คปภ. ภาค 7 (นครปฐม) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดตามและประสานงานกับบริษัทประกันภัยเพื่อเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม พร้อมทั้งได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้เสียชีวิตมีการทำประกันชีวิตหรืออุบัติเหตุส่วนบุคคลประเภทอื่นๆ ไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 คน อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ทั้งนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นจากสำนักงาน คปภ. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า รถยนต์หมายเลขทะเบียน กต 583 ชัยภูมิ  ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท เคเอสเค ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ BKK-A-Col-18-086891 เริ่มความคุ้มครองเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 สิ้นสุดความคุ้มครอง 8 พฤษภาคม 2562 และทำประกันภัยภาคสมัครใจ ประเภท 2 ไว้กับบริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 203-18-2180-011774 เริ่มความคุ้มครอง 20 กรกฎาคม 2561 สิ้นสุดความคุ้มครอง 20 กรกฎาคม 2562 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. จำนวน 1,000,000 บาทต่อคน และ 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สิน จำนวน 1,000,000 บาท ) ความเสียหายต่อรถยนต์กรณีสูญหายหรือไฟไหม้ จำนวน 400,000 บาท  สำหรับความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (อุบัติเหตุส่วนบุคคล กรณี เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน จำนวน 100,000 บาท ผู้โดยสาร 6 คน จำนวน 100,000 บาท  ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 100,000 บาทต่อคน การประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาท ต่อครั้ง)

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดในการติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 คนนั้น สำนักงาน คปภ. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานว่า บริษัทประกันภัยได้ติดต่อทายาทของผู้เสียชีวิต ทั้ง 6 คนแล้ว โดยในวันที่ 25 ตุลาคม 2561 จะมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระบุรีจำนวน 2 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 4 คน จะนัดวันจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างเร่งด่วนต่อไป
 
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ อุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงนี้ เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน มีฝนตกหนักและเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ดังนั้น จึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคสมัครใจ และกรมธรรม์ประกันภัยอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยา ความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร และหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องประกันภัยสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กล่าวในตอนท้าย