ผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่ร้องปอศ. ถูกขู่ให้ถอนแจ้งความ

ผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่ร้องปอศ. ถูกขู่ให้ถอนแจ้งความ

ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ พร้อมผู้เสียหาย ร้องปอศ. ถูกทนายผู้ต้องหาไล่ฟ้อง ข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ ผู้เสียหายแจงกังวลใจ หลายคนเริ่มคิดทำร้ายตัวเอง

เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 19 ตุลาคม 2561 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทยพร้อมผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่โอดีแคปิตอล และแชร์ลูกโซ่บิทคอยกว่า 20 คน เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับพล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด รักษาราชการแทนผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจหรือ ปอศ. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้เสียหายแจ้งความไว้กับ ปอศ. จนตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาได้แล้วรวมกว่า 60 คน แต่ผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับการประกันตัวชั้นสอบสวน แล้วกลับมาจ้างทนายไล่ฟ้องผู้เสียหายทั้ง 59 คน เพื่อเป็นการข่มขู่ ผู้เสียหายให้ถอนแจ้งความ หลายรายโดนหมายศาลในข้อหาแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ผู้เสียหายจึงนำหมายศาลมาแสดงและมอบให้รรท.ผบก.ปอศ. พิจารณา เพื่อขอให้เพิกถอนประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากข่มขู่ผู้เสียหาย แล้วนำเงินที่ฉ้อโกงผู้เสียหายกลับมากลั่นแกล้ง

ผู้เสียหายขอสงวนชื่อและนามสกุล เปิดเผยว่า ภายหลังจากได้รับหมายศาลก็รู้สึกตกใจและหวาดกลัว พร้อมกับรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากส่วนตัวถูกผู้ต้องหาหลอกลวงเป็นเงิน กว่า 2.7 ล้านบาท ทำให้เมื่อมาถูกกลุ่มผู้ต้องหาฟ้องและศาลออกหมายมายังตนกว่า 6 หมาย ทำให้ไม่มีเงินจ้างทนายไปสู้คดี เมื่อไปร้องกับสภาทนายความและกระทรวงยุติธรรมก็ไม่เข้าข่ายในการให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากมีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อเดือน บางคนในกลุ่มผู้เสียหายเครียด จนถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ กังวลจะต้องติดคุก ทั้งๆ ที่ครั้งแรกเป็นผู้เสียหาย แต่ตอนนี้อาจจะต้องตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งหลายคนคิดทำร้ายตัวเองแล้ว

ด้านพล.ต.ต.ไมตรี เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล และตนเองเพิ่งมารับตำแหน่ง จึงขอรับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการกระทำเข้าข่ายการข่มขู่หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอให้อัยการพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากคดีนี้ ถูกตั้งขึ้นมาเป็นคณะทำงาน ทั้งนี้ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแน่นอน