“เซียร์ส”ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกสหรัฐประกาศล้มละลาย

เซียร์ส ที่เคยครองความเป็นเจ้าในภาคค้าปลีกสหรัฐมายาวนาน ได้ยื่นล้มละลายขอพิทักษ์ทรัพย์ที่ศาลในนิวยอร์กแล้วในวันนี้ พร้อมประกาศปิดเกือบ 150 สาขา

ผู้บุกเบิกห้างสรรพสินค้าที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ปี 2429 เคยขยายอาณาจักรแผ่ทั่วอเมริกาเหนือ แต่ต้องทยอยปิดสาขาหลายร้อยแห่งในช่วงหลายปีมานี้ จากการเติบใหญ่ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซนำโดยแอมะซอน

เซียร์สมีปัญหาหนี้สินรุงรังจนไม่สามารถชำระคืน 134 ล้านดอลลาร์ตามกำหนดในวันนี้ได้ เอดเวิร์ด เอส แลมเพิร์ต ประธาน เซียร์ส โฮลดิงส์ กล่าวว่า การยื่นล้มละลายจะช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการบริหารงบการเงิน และเพิ่มขีดความสามารถเร่งปฏิรูปเชิงยุทธศาสตร์

เซียร์ส ครองตำแหน่งธุรกิจค้าปลีกใหญ่ที่สุดในสหรัฐในแง่ของรายได้ในประเทศ จนกระทั่งถูกวอลมาร์ตแซงในปี 2532 และร่วงมาอยู่อันดับที่ 23 เมื่อปีก่อน บริษัทไม่มีกำไรมาตั้งแต่ปี 2554

ก่อนหนานี้ บริษัทประกาศว่ามีแผนปรับโครงสร้างรูปแบบสาขาให้เล็กลง เชื่อว่าจะช่วยรักษาตำแหน่งงานไว้ได้หลายพันตำแหน่ง แต่ล่าสุด ประกาศว่าจะปิดสาขาไม่ทำกำไร 142 แห่งภายในสิ้นปี นอกเหนือจากที่ประกาศปิดไปแล้ว 46 สาขาภายในเดือนพ.ย.

เอกสารที่เซียร์สยื่นต่อศาลล้มละลายแขวงนิวยอร์กใต้ระบุว่า บริษัทมีทรัพย์สิน 6,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และหนี้สิน 11,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การยื่นล้มละลายตามมาตราที่ 11 เป็นการขอให้มีการปรับโครงสร้างบริษัทโดยที่ลูกหนี้ยังต้องการดำเนินธุรกิจต่อไปและจะจ่ายชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้

เซียร์สไม่ใช่ห้างเดียวที่ต้องหลีกทางกับกระแสผู้บริโภคหันไปช็อปปิงออนไลน์กันมากขึ้น เมื่อเดือนมีนาคม บริษัทของเล่นรายใหญ่ Toys “R” Us ประกาศแผนปิดสาขาทั้งหมดในสหรัฐ ส่วนห้าง เมซีส์ กับ เจซี เพนนีย์ ก็ต้องปิดสาขาและลอยแพพนักงานจำนวนมาก