'เพื่อไทย' เดินเกม3ขา เกลี่ยส.ส.กันยุบพรรค
ใกล้เลือกตั้งมากบรรดาพรรคการเมืองต่างงัด "กลยุทธ์" เพื่อมาสู้ศึกที่กำลังจะมีขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทย ที่งัดยุทธศาสตร์ "แยกกันเดิน ร่วมกันตี" มาใช้เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น โดยยุทธศาสตร์ศาสตร์ที่ว่า เป็นยุทธศาสตร์การเดิน 3 ขา
000 ขาที่หนึ่ง “พรรคเพื่อไทย” เป็นพรรคหลักของสมาชิกเกรดเอ เน้นกวาดส.ส.ระบบเขต ขาที่สอง “พรรคเพื่อธรรม” ของ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” เป็นพรรคผู้สมัครเกรดบี หรือที่ “ล้นโควตา” มาจากพรรคเพื่อไทย เพื่อเดินเกมกวาดส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยจะอยู่ในคาถาของ “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” ที่จะดันสามีอย่าง “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกฯถือธงนำพรรค ขาที่สาม “พรรคเพื่อชาติ” มี “ยงยุทธ ติยะไพรัช” เป็นแกนนำหลักซึ่งบ้านหลังนี้จะเน้นกลุ่มแนวร่วมโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง
000 การที่พรรคเพื่อไทยเลือกเดินเกม 3 ขาเช่นนี้อาจเกิดจาก “2 ปัจจัย” ปัจจัยแรก เรื่องโมเดลเลือกตั้ง ทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก ซึ่งออกแบบโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มี “มีชัย ฤชุพันธุ์” เป็นประธาน ที่ให้ใช้ “ระบบจัดสรรปันส่วนผสม” ด้วยเหตุผลว่า “ทุกคะแนนเสียงจะไม่ตกน้ำ”
000 ซึ่งหากคิดตามสมการที่กำหนดคือ การนำคะแนนรวมทั้งประเทศที่พรรคการเมืองทุกพรรคได้รับจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตหารด้วย 500 โดยคิดจากสมมติฐานตามการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ซึ่งมีคะแนนที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 35 ล้านเสียง หารด้วย 500 หรือ “70,000 คะแนนได้ ส.ส.1 คน” แล้วนำมาเทียบเคียงผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2554 ที่พรรคเพื่อไทยได้คะแนนประมาณ 14 ล้านเสียง เท่ากับว่า เพื่อไทยจะได้ส.ส.เขตประมาณ 200 ที่นั่ง (จากเดิม204 ที่นั่ง)
000 แต่เมื่อนำจำนวนที่พึงได้ลบด้วยจำนวน ส.ส.เขต ที่เพื่อไทยได้รับ มีการคาดการณ์ว่า พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่เกิน 5 คน (จากเดิม61คน) หรือที่แย่ไปกว่านั้นมีความเป็นไปได้สูงที่พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อเลยแม้แต่คนเดียว ด้วยเหตุนี้พรรคเพื่อไทยจึงเลือกที่จะเดินเกมแยกกันเดิน โดยใช้ขาที่หนึ่งเก็บคะแนนในระบบเขต และให้ขาที่สองคือพรรคเพื่อธรรมเก็บคะแนนบัญชีรายชื่อ
000 ขณะที่ ปัจจัยที่2 ที่ทำให้พรรคเพื่อไทยเดิมเกม3ขา นั่นคือ ข่าวลือและคำขู่เกี่ยวกับการ “ยุบพรรค” ทั้งจากกรณีแถลงข่าว 4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งทางฝ่ายคสช.ร้องทุกข์เพื่อดำเนินการ3ข้อหาคือ 1.ฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ,ความผิดพ.ร.บ.การชุมนุม ที่มีการมั่วสุมเกิน 5 คน และความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
000 รวมถึงกรณีปรากฏคลิปวีดีโอระหว่างที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯวีดิโอคอลหาลูกพรรค และมีการพูดคุยในเรื่องเรื่องดังซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในขณะนี้ รวมถึงเสียงเล่าลือที่ว่าอาจจะมีการ “ไล่เช็กบิล” พรรคเพื่อไทย หลังจากมีการเลือกตั้ง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเท่ากับว่าพรรคจะเกิด “สุญญากาศ” ทันที เพราะจะติดเงื่อนไขในเรื่องการเป็นสมาชิก90วัน ทางออกของประเด็นนี้จึงอยู่ที่การตั้งพรรคสำรองอย่างพรรคเพื่อธรรมไว้เพื่อเตรียมพร้อมหากมีการยุบพรรคตามที่กังวล
000 เกมเดิน3ขาของพรรคเพื่อไทยขณะนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน คงต้องไปลุ้นกันในวันที่10พ.ย.หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “นายใหญ่” ได้ฝากการบ้านให้ลูกพรรควิเคราะห์มุมมองความเป็นไปได้เกี่ยวกับอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น เมื่อถึงเวลานั้นก็จะได้ทราบว่าพรรคเพื่อไทยจะเดินไปในทิศทางใดต่อไป!!