ลองขับ : "เลกซัส ยูเอ็กซ์" ดีกว่าที่คิด ขับสนุก นั่งสบาย
ยูเอ็กซ์ น้องใหม่ในตระกูล เลกซัส มีเป้าหมายที่จะขยายตลาดเลกซัส ในกลุ่ม "นอน ซีดาน" อย่าง "ครอสโอเวอร์" ที่ขยายตัวสูงทั่วโลก
ยูเอ็กซ์ มีขนาดกะทัดรัด ตัวถังยาว 4,495 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,540 มม. ความยาวช่วงล้อ 2,640 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับรถที่ใช้แพลทฟอร์มเดียวกันอย่าง โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ที่มีความยาว 4,360 มม. กว้าง 1,795 มม. และสูง 1,565 มม. ความยาวฐานล้อ 2,640 มม. จะเห็นว่าความยาวช่วงล้อเท่ากัน แต่ยืดตัวถังยาวขึ้น กว้างขึ้น และกดหลังคาลงมาให้เตี้ยลงเล็กน้อย ช่วยให้รูปทรงรถมีอารมณ์สปอร์ตมากขึ้น ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานก็อยู่ที่ 0.33 และน้ำหนักรถในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า 1,525-1,625 กก. ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,610-1,680 กก.
รูปทรงของยูเอ็กซ์ ผมว่าสอบผ่าน สวยงาม เส้นสายตัวถังทั้งด้านหน้าและด้านหลังคมกริบ รูปทรงโดยรวมกดหน้ารถให้ต่ำลงเล็กน้อย ดูสปอร์ตมากขึ้น
ด้านหน้ามีอารมณ์ร่วมกับรุ่นอื่นๆ ในค่าย โดยเฉพาะกระจังหน้าขนาดใหญ่ แต่เพิ่มลูกเล่นให้ยูเอ็กซ์ที่มีรายละเอียดมากกว่าทั่วไป ซับซ้อน เมื่อเปลี่ยนมุมมองก็ดูเหมือนมีความเคลื่อนไหว ส่วนไฟหน้าเป็นแบบ อแดพทีฟช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าจะไปรบกวนรถคันอื่น ด้านข้างกลัวว่าจะจืดเกินไป จึงออกแบบให้ซุ้มล้อพลาสติกเป็นสีดำตัดกับสีหลักของตัวรถ แต่ไม่ปล่อยให้อยู่โดดเดี่ยว เพราะเชื่อมตัวด้วยแถบสีดำที่ของตัวถังรถรอบคัน
ส่วนท้ายรถไฟท้ายบางๆ โฉบเฉี่ยว และมีแถบบางๆ เชื่อมต่อถึงกันระหว่างด้านซ้ายกับด้านขวา และหากมองดีๆ ก็จะเห็นว่าด้านท้ายยังออกแบบให้มีมิติซ้อนมิติ ด้วยเส้นสายทั้่งแนวนอน และมีเส้นแนวตั้งที่ล้อผมคิดว่าต้องการให้ล้อไปกับเส้นของกระจังหน้ารถ ดูสวยงาม แปลกตา และบึกบึน
ภายในห้องโดยสาร ดูดี วัสดุต่างๆ ดูมีราคา ออกแบบให้รถคอมแพคท์ รู้สึกโปร่งโล่งนั่งสบายไม่อึดอัด เบาะออกแบบมาดี นุ่มกระชับลำตัว เรียกว่าเดินทางไกลๆ สบายตัว และก็ช่วยให้การควบคุมรถในช่วงทางโค้งหรือเส้นทางภูเขาทำได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
จุดหนึ่งที่ผมชอบ และคาดว่าน่าจะเป็นความละเอียดอ่อนของหัวห้าวิศวกรหญิงวัย 50 ปี ผู้รับผิดชอบโครงการ ยูเอ็กซ์ อย่าง ชิกะ คาโกะ ก็คือ ช่วงเข่าและพื้นที่วางขาของผู้ขับขี่นั่งได้สบาย หลายคนนั่งรถบางคันอาจจะรู้สึกว่าเข่าของเขาด้านในจะติดกับคอนโซลเกียร์ นั่งไปนานๆ รู้สึกรำคาญได้เช่นเดียวกัน แต่ยูเอ็กซ์ไม่ติดตรงนี้
แต่จุดบริเวณคอนโซลด้านหลังพวงมาลัย ที่ยกเป็นซุ้มขึ้นไปเห็นได้ชัดเจน ดูขัดตาเล็กน้อยในความรู้สึกส่วนตัว แต่ในส่วนอื่นๆ โดยรวมถึอว่าออกแบบได้ดี สวยงาม หรูหรา ไม่ว่าจะเป็นจอมอนิเตอร์ หรือว่าคอนโซลเกียร์ รวมถึงมาตรวัดแบบทีเอฟที ที่เพิ่มลูกเล่นด้วยการออกแบบให้เลื่อนซ้าย-ขวาได้ ดูล้ำสมัย
และก็เป็นไปตามยุคสมัยที่เริ่มใช้ระบบสั่งงานแบบสัมผัส คล้ายกับทัชแพด ซึ่งยูเอ็กซ์ก็มีเช่นกันที่ข้างคันเกียร์สั้นๆ และหัวเกียร์ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ และค่อนไปทางแบน กลมกลืนไปกับส่วนประกอบอื่นๆ
พวงมาลัย 3 ก้าน อวบอ้วนทั้งตรงเส้นรอบวง ทำให้จับได้ถนัดมือ และก้านทั้ง 3 ที่มีขนาดใหญ่ดูบึกบึน ช่วยให้ปุ่มควบคุมต่างๆ บนพวงมาลัยมีพื้นที่เพิ่มขึ้น สะดวกต่อการใช้งาน
และดูเหมือนคาโกะจะพยายามตัดรายละเอียดบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น ช่องแอร์ ที่เน้นความเรียบมากขึ้น ลดเส้น ลดซี่ลงไป เหลือเพียงแถบเล็กๆ แนวยาว 2 แถบ และปุ่มกลมๆ เล็กๆ บริเวณกลางเส้น
ยูเอ็กซ์มีเครื่องยนต์เบนซิน วีวีทีไอ 4 สูบ DOHC16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1,987 ซีซี รหัส M20A-FKS ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีดอีเล็กทรอนิคส์ อีเอฟไอ ไดเร็ค อินเจคชั่น ให้กำลังสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่9.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 190 กม./ชม.
และรุ่นไฮบริดใช้เครื่องยนต์เบนซิน ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เป็นเครื่องยนต์4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาดความจุกระบอกสูบ 1,987 ซีซี หัวฉีด อีเอฟไอ ไดเรค อินเจคชัน ให้กำลังสูงสุด146 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด180 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟหน้า ที่ให้กำลังสูงสุด109 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 202 นิวตัน-เมตร
ส่วนเกียร์เป็นแบบ ไดเร็ค ชิฟท์ ซีวีที ซึ่งแตกต่างจากซีวีทีทั่วไปคือ เกียร์ 1 ล็อคอัตราทดเกียร์เอาไว้ เพื่อให้รถมีการออกตัวที่ดี ให้อารมณ์เหมือนกับเกียร์เฟือง เพราะเป็นที่รู้กันว่าหลายคนที่ขับรถเกียร์ซีวีที จะไม่ค่อยชอบอารมณ์ช่วงออกตัวนัก เพราะรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของรถไม่สัมพันธ์กับคันเร่ง เสียงเครื่อง รวมถึงใจของตัวเอง แต่เกียร์ของยูเอ็กซ์ทำได้ดี ออกตัวได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น
สำหรับในไทยจะนำเข้ารุ่น ไฮบริด ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ติดตั้งมอเตอร์เพิ่มเติมที่เพลาหลัง และรถที่ผมได้ทดลองขับก็เป็นรุุ่นไฮบริดนี่แหละครับทั้งขับ 2 และขับ 4
เส้นทางที่ขับมีทั้งทางไฮเวย์ และทางเล็กๆ ผ่านพื้นที่ป่าเขาและเขตชนบทของสต็อกโฮล์ม ทำความเร็วไม่ได้มากนัก แม้แต่ไฮเวย์ ทั้งที่ผิวถนนดี เรียบกริบ แต่ทางการจำกัดความเร็วสูงสุดประมาณ 110 กม./ชม. แม้บางช่วงจะแอบๆ เติมไปบ้างตามที่รถท้องถิ่นเขาทำให้เราดู และทำตาม ก็ไม่เกิน 130-140
แต่ก็เพียงพอให้จับความรู้สึกได้ถึงอัตราเร่งต่างๆ ที่มาได้รวดเร็ว และจะว่าไป ก็ถือว่าความเร็วที่ใช้เป็นความเร็วระดับเดินทางทั่วไป ซึ่งการไล่ขึ้นไประดับ 120 กม./ชม. เป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับยูเอ็กซ์
และที่ความเร็วระดับนี้กลับดูเหมือนกำลังขับรถกินลมชมวิว ซึ่งคงต้องยกเครดิตให้กับทั้งผิวถนนที่ราบเรียบ และตัวรถที่นิ่ง มีการทรงตัวดี และเสียงรบกวนเข้ามาในห้องโดยสารน้อย
ขณะที่เส้นทางชนบทเล็กๆ แบบ 2 เลนสวนทาง เป็นเส้นทางที่น่าขับขี่ เพราะมีทั้งความสวยงามของเส้นทางเอง และความสวยงามของวิวทิวทัศน์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงผ่านป่าเขาหรือว่าผ่านชุมชนท้องทุ่งชนบทก็ตาม
เส้นทางนี้ขับสนุกขึ้นกว่าไฮเวย์ เพราะแม้จะจำกัดความเร็ว และมีกล้องเป็นระยะๆ แต่ความคดโค้งของเส้นทางกับความเร็ว 70 หรือ 90 กม./ชม. ผมว่าก็ไม่ช้าเกินไป และช่วยให้จับความรู้สึกของช่วงล่าง และการควบคุมรถได้ดี
ซึ่งยูเอ็กซ์ขับได้สนุกในเส้นทางนี้ ทำได้ดีกว่าที่คาดคิดเอาไว้ รถคุมง่าย พวงมาลัยแม่นยำ เข้าโค้งได้เนียน ไม่มีอาการลื่นไถล และเส้นทางที่ต้องมีโค้งซ้าย-ขวา ติดๆกัน รถก็ไม่ได้ออกอาการเหวี่ยง และนานๆ จึงจะมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดแผ่วๆ ของยาง แว่วเข้ามาบ้าง ซึ่งการกระจายน้ำหนักของรถที่ 60:40 ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยให้รถมีความคล่องตัว และตลอดเส้นทางก็ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้น ต้องยกความดีให้กับยูเอ็กซ์ และผู้ร่วมทางอื่นๆ ที่ขับรถดี มีวินัย ไม่มีการตัดโค้ง ทับเส้นให้น่ารำคาญ
ถึงตรงนี้ก็ต้องบอกว่า ยูเอ็กซ์ ยกระดับการขับขี่ขึ้นมาได้ดี เป็นรถที่ขับง่าย คุมง่าย แต่ก็ขับได้สนุก เล่นกับโค้งแก้ง่วงได้ ความนุ่มนวล และการโยนตัวของตัวถังที่น้อย ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งสบาย แต่การยึดเกาะถนนที่ดีก็ทำให้ผู้ขับพอใจ แม้ว่าจะอยู่ในโหมดขับขี่ธรรมดา ไม่ต้องใช้โหมดสปอร์ตก็ได้ครับ
งานใหญ่แบบเต็มระบบงานแรกของ "ชิกะ คาโกะ" กับการบ้านที่นายใหญ่ของโตโยต้าให้มาคือ สร้างรถที่ไม่น่าเบื่อ ผมว่างานนี้ คาโกะ สอบผ่านครับ ไม่ว่าจะเป็นในด้านรูปทรงหรือว่าการขับขี่ก็ตาม