'พล.อ.ฐิติวัจน์' พร้อมอดีตผญบ.สาวคนดัง สมัครเข้าพรรคชพน.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พรรคชาติพัฒนา เปิดรับสมัครสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการวันแรก หลังจากที่ประชุมสามัญของพรรคมีมติแก้ไขข้อบังคับพรรคการเมือง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีบุคคลที่สนใจร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาทยอยเดินทางสมัครเป็นสมาชิกพรรคจำนวนหนึ่ง อาทิ พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคแบบรายปี พร้อมชำระค่าสมัคร จำนวน 50 บาท, น.ส.สุพัตรวี อยู่แพทย์ หรือ แม่หลวงกุ้ง อดีตผู้ใหญ่บ้านศรีวัฒนา จ.เชียงใหม่ ที่สังคมออนไลน์ยกย่องว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านหญิงที่สวยสุดในประเทศ

ทั้งนี้ นพ.วรรณรัตน์ แถลงว่าการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคช่วงเช้า มีผู้ยื่นใบสมัครทั้งสิ้น 48 คน มาจาก กทม., อยุธยา, เชียงราย, เชียงใหม่, ฮ่องสอน, อุบลราชธานี, เลย, กาฬสินธุ์ เป็นต้น ทั้งนี้บุคคลที่สมัครดังกล่าวมีความพร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ของพรรคในการเลือกตั้งที่จะมาถึงด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีอดีต ส.ส., คนรุ่นใหม่, อดีตข้าราชการทั้งสายพลเรือนและทหาร ที่เกษียรอายุราชการ จะสมัครเป็นสมาชิกพรรค ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตที่ปรึกษาของพรรคนั้น ตนไม่ทราบว่าจะมาสมัครเป็นสมาชิกหรือไม่หรือเมื่อใด เพราะยังไม่ได้คุยกัน

"ผมเชื่อว่าการสมัครเป็นสมาชิกพรรคของพล.อ.ฐิติวัจน์ ที่นำกลุ่มเพื่อน จำนวน 40 คนมาสมัครด้วยนั้น จะเป็นส่วนที่สร้างความเชื่อมั่น และมั่นคงให้กับพรรคให้เป็นสถานบันทางการเมืองที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป" นพ.วรรณรัตน์ กล่าว

นพ.วรรณรัตน์ กล่าวถึงความชัดเจนต่อการส่งสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ด้วยว่า ขณะนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ เนื่องจากต้องรอพิจารณาจำนวนสมาชิกพรรคในพื้นที่ต่างๆ ด้วย เพราะตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง พรรคจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ ต้องคำนึงถึงการมีสาขาพรรค ที่ต้องใช้สมาชิกพรรค ไม่น้อยกว่า 500 คน หรือ ตัวแทนจังหวัดที่มีสมาชิก จำนวน 100 คนขึ้นไป ส่วนการส่งชื่อบุคคลที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ นั้นตนยังให้คำตอบไม่ได้เช่นกัน เพราะตามข้อบังคับพรคกำหนดให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมแสดงความเห็นด้วย

ขณะที่พล.อ.ฐิติวัจน์ กล่าวว่า เหตุผลที่ตนสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนา เพราะมีความผูกพันธ์กับพรรค มาตั้งแต่รุ่นบิดา คือ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก และจากประสบการณ์ที่ทำงานในคณะปฏิรูปชุดการเมือง เคยเสนอความเห็นเพื่อกำหนดเป็นแผนปฏิรูปการเมือง จึงต้องการลงพื้นที่การเมืองเพื่อดูให้รู้ว่าเป็นอย่างไร

"ผมไม่ได้มาตรวจการบ้านหรือมาเช็คงาน อีกอย่างผมลงสมัครเป็น ส.ส.ไม่ได้เพราะไม่ได้ลาออกตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งการขับเคลื่อนงานการเมืองนั้นผมไม่หวังตำแหน่งใดๆ หรือผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น" พล.อ.ฐิติวัจน์ กล่าว

เมื่อถามว่าการตัดสินใจร่วมงานการเมือง ได้แจ้งกับผู้ใหญ่ในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ พล.อ.ฐิติวัจน์ กล่าวว่า ตนได้แจ้งทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. แล้ว เพราะตามมารยาทก่อนที่ตนจะลาออกจากคณะกรรมการปฏิรูปด้านการเมืองของรัฐบาล ทั้งนี้บุคคลทั้ง 2 ถือเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือมานาน แต่ทั้ง 2 คนไม่ได้ฝากหรือสั่งการใดๆ ต่อการตัดสินใจทางการเมืองของตน