เตรียมพิสูจน์4ภาพ 'อ.ถวัลย์' ปัดสร้างกระแสปั่นราคา

เตรียมพิสูจน์4ภาพ 'อ.ถวัลย์' ปัดสร้างกระแสปั่นราคา

ตำรวจนครบาล เตรียมพิสูจน์4ภาพ "อ.ถวัลย์" ที่ยึดจากบ้านปทุมฯ ด้าน "ดอยธิเบศร์" ปัดสร้างกระแสเพื่อปั่นราคาผลงานของพ่อให้มีราคาสูงขึ้น

จากกรณีนายดอยธิเบศร์ ดัชนี บุตรชายและผู้จัดการมรดกของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนะศิลป์ พ.ศ. 2544 เข้าแจ้งความกับตำรวจว่า ภาพเขียนของพ่อจำนวน 113 รูป มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท หายไปสถานที่จัดเก็บ โดยเมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ตำรวจได้ทำการตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี พบภาพวาดนกอินทรี 4 ชิ้น จึงได้ทำการยึดเพื่อนำไปตรวจสอบ ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 กันยายน มีรายงานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการพิสูจน์ข้อมูลทั้งในฟากเจ้าของภาพทั้ง 4 ว่าได้มาก่อนหรือหลังจากที่ อ.ถวัลย์จะเสียชีวิต เพราะหากได้ไปหลังจากที่เสียชีวิตก็นับว่าน่าสงสัย แต่หากได้มาก่อนก็ถือว่าเป็นการได้มาโดยบริสุทธิ์ใจ ขณะเดียวกันในส่วนของนายดอยธิเบศร์ ดัชนี ผู้เป็นบุตรที่จัดการมรดที่ผ่านมานั้นได้ทำการตรวจสอบภาพทั้งหมดเรียบร้อยดีหรือไม่ อย่างไร เนื่องจากคดีดังกล่าวได้ทำการสอบสวนมานานแต่ก็ยังไม่ทราบว่าบุคคลใดที่เอาไป อย่างไรก็ตามภาพวาดที่ตรวจยึดจากบ้านเลขที่ 95 ในจ.ปทุมธานีนั้นต้องตรวจสอบว่าเป็นของอ.ถวัลย์หรือไม่ เจ้าของระบุมีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งขณะนี้ภาพได้ถูกจัดเก็บไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยจะให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในวันที่ 24 กันยายนนี้เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

ด้านนายดอยธิเบศร์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เริ่มเป็นข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนหาภาพของพ่อคืน และตนเองได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทาง facebook ส่วนตัวให้นำภาพเขียนของพ่อมาส่งคืน ก็ยังไม่มีใครติดต่อขอส่งคืนภาพเขียนต้องสงสัยแต่อย่างใด ส่วนที่โพสต์ Facebook ว่าได้ภาพเขียนรูปนกอินทรีย์คืนมา 4 ภาพ จากข้อมูลการติดตามภาพวาดของพ่อเป็นการส่วนตัวพบว่า ภาพวาดชุดนกอินทรีที่ได้คืนมานี้ ตนเองเคยได้รับการติดต่อจากนักธุรกิจชื่อดังให้ไปตรวจสอบรับรองภาพวาดนกอินทรีจำนวนประมาณ 20 ถึง 30 ภาพที่แกลเลอรี่ชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ก่อนที่ตนจะทราบว่ามีภาพเขียนหายไป จึงส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามเพิ่มเติมและที่ตนเองได้โพสต์ Facebook ให้คู่กรณีช่วยติดตามหาภาพที่หายไปก็ต้องการให้แสดงความบริสุทธิ์ใจในการช่วยติดตามหาภาพวาดหากไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นการสร้างกระแสเพื่อปั่นราคาผลงานของพ่อให้มีราคาสูงขึ้น