นายกฯ บอก 'ทูตเนเธอร์แลนด์' ปฏิรูปปชต. บริหารประเทศตามโรดแมป

นายกฯ บอก 'ทูตเนเธอร์แลนด์' ปฏิรูปปชต. บริหารประเทศตามโรดแมป

"ประยุทธ์" บอก "ทูตเนเธอร์แลนด์" ปฏิรูปปชต. บริหารประเทศตามโรดแมป ย้ำ “เลือกตั้ง” ต้นปี 2562

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 ก.ย.61 ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเกส ปีเตอร์ ราเดอ (Mr. Kees Pieter Rade) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยภายหลังการหารือ พล.ท. วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญการหารือว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวไทย แสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระราชินีมักซิมาแห่งเนเธอร์แลนด์ เสด็จฯ เยือนประเทศไทย เพื่อทรงเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 26 ต.ค.61

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวประทับใจขอบคุณที่ภาคเอกชนของเนเธอร์แลนด์ได้เสนอส่งเครื่องสูบน้ำกำลังสูงมาช่วยเหลือในภารกิจปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีม หมูป่าอะคาเดมี และผู้ฝึกสอน ที่ติดอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ซึ่งเคยปฏิบัติงานในหลายภูมิภาค ทั้ง อเมริกาใต้ และ แอฟริกา จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการขับเคลื่อน และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ แน่นแฟ้น และเพิ่มพูนในหลากหลายมิติ

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนโยบายเพื่อปฏิรูปและพัฒนาเศรษฐกิจของไทย ได้แก่ EEC Thailand 4.0 และ Thailand+1 เห็นว่าเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ และได้รับความสนใจจากนักลงทุนเนเธอร์แลนด์ ไทยมีความพร้อมและศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการค้า และการลงทุนของอาเซียน นอกจากนี้ ไทยยังมีความประสงค์ที่จะมีความร่วมมือด้านการเกษตร โดยเฉพาะข้าว และยาง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพของไทย นอกจากนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปราชการที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อหารือในการที่จะขยายความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำด้วย

โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ฯ ได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศที่ดำเนินไปอย่างราบรื่นมายาวนานกว่า 400 ปี ทั้งนี้ ไทยและเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศเกษตรกรรมเช่นเดียวกัน จึงสามารถขยายความร่วมมือ แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารระหว่างกัน รวมทั้งความร่วมมือด้านการศึกษา ซึ่งเห็นได้จากการที่นักเรียนนักศึกษาไทยสนใจไปศึกษาต่อที่เนเธอร์แลนด์จำนวนมากขึ้น พร้อมชื่นชมตัวเลขทางการค้าระหว่างไทย-เนเธอร์แลนด์ โดยเนเธอร์แลนด์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของไทยในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเพราะไทยเป็นเสมือนประตูการค้าสู่ภูมิภาคอาเซียน

ในช่วงท้ายการหารือ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ามีกำหนดการเดินทางจะเข้าร่วมการประชุม ASEM Summit ในเดือนต.ค. 61 และหวังว่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้พบหารือกับนายมาร์ก รึตเตอ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเชื่อมั่นว่าการพบหารือกันจะเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับเนเธอร์แลนด์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป พร้อมยืนยันถึงกระบวนการปฏิรูปประชาธิปไตยของไทยว่า ได้บริหารประเทศโดยยึดตามโรดแม็พ และพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงต้นปี 62 ด้วย