จับตา 'ผอ.นิติวิทย์ฯ' คนใหม่ สานต่อศูนย์อัตลักษณ์พันล้าน

จับตา 'ผอ.นิติวิทย์ฯ' คนใหม่ สานต่อศูนย์อัตลักษณ์พันล้าน

สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าของอภิโปรเจค อัตลักษณ์บุคคล 1,000 ล้านบาท ซึ่งวิจารณ์กันหนาหูว่า เฟสแรกแค่จัดจ้างที่ปรึกษา งบฯ 100 ล้านบาท

งานไม่เป็นไปตามเป้าจนเป็นเหตุแห่งการขยับ “สมณ์ พรหมรส” จากผอ.สถาบันนิติวิทย์ฯ ไปเป็นอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ส่วน “นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์” รองผอ.ก็ถูกโยกไปดีเอสไอ เพื่อเฟ้นหาบุคคลที่เหมาะสมมาสานต่อโครงการ หลังจากโยนหินถามทางไปในหลายกรม นาทีนี้ต้องหันมามอง “พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์” อดีตรองอธิบดีดีเอสไอ ซึ่ง “รองบิลลี่” เริ่มฉายแววจะขยับขึ้นเป็น ซี 10 หลังจากถูกย้ายมาดอง เป็นรองผอ.สถาบันนิติวิทย์ฯ เซ่นคดีเสื้อแดง 89 ศพ

000 ภารกิจปรับไถเปิดหน้าดินใน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากโยกสลับเก้าอี้รองอธิบดีดีเอสไอไปแล้ว 2 ที่นั่ง คิวต่อไปเป็นการปูนบำเหน็จให้กับอาวุโสที่ทำงานให้กับดีเอสไอมายาวนาน ลือสะพัดว่าตำแหน่งผู้ตรวจราชการระดับ 10 ที่ว่างอยู่ 2 อัตรา จะตกเป็นของ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล “รองฯ 1” และ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร “รองฯ 4” เพื่อเคลียร์อดีตตำรวจในดีเอสไอให้โล่ง

000 แขวนให้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง นั่งเป็นอธิบดีดีเอสไอ อยู่โด่เด่ ไม่เหลือมือไม้ แถมมีทีท่าจากอีเวนท์สัญจรเลย-เพชรบูรณ์ ซึ่งมีความพยายามให้ดีเอสไอรับสอบสวนคดีใหญ่เป็นคดีพิเศษ หลังถูกตัดแขนขา เหลียวซ้ายแลขวาไม่มีใครออกหน้ารับเป็นหัวหน้าชุด เพราะต่างไม่แน่ใจว่าจะได้อยู่ต่อ หรือไปที่อื่น ในช่วงก่อนเข้าโค้งสุดท้าย ดีเอสไอต้องงัดทุกหน้าตักขึ้นสู้เพื่อดึงรองฯกรวัชร์เอาไว้ให้ได้

000 ทางด้าน รองอธิบดีที่ย้ายมาใหม่ ก็เปิดอกเจรจาแล้วว่าไม่ถนัดในหน้างานสืบสวนสอบสวน ขอเริ่มจากงานธุรการง่ายๆ ไปพลางก่อน 

000 ในช่วงระส่ำระสาย ยังมีการปล่อยข่าวลือถึงการตัดเงินเพิ่มพิเศษสำหรับพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ เพื่อเสริมแรงจูงใจให้โอนย้าย ข้อมูลจากโต๊ะพูดคุยทำความเข้าใจถึงการปฏิรูปดีเอสไอ

เจ้ากระทรวงส่งสัญญาณชัดว่า งานสอบสวนคดีไม่ควรกระจุกในมืออดีตตำรวจ พนักงานสอบสวนดีเอสไอต้องทำคดีได้ทุกคน นาทีนี้บรรดาอดีตตำรวจโดนคำสั่งย้ายราวกับถูกตั้งกรรมการสอบวินัย