เบจบุ๊คชี้ภาคธุรกิจห่วงผลกระทบข้อพิพาทการค้า

เบจบุ๊คชี้ภาคธุรกิจห่วงผลกระทบข้อพิพาทการค้า

กลุ่ม Americans for Free Trade ได้ทำการรณรงค์โดยใช้ชื่อว่า Tariffs Hurt the Heartland โดยมีการซื้อโฆษณา และจัดการประชุมในรัฐต่างๆ นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังได้เชิญชวนให้สมาชิกสภาคองเกรสคัดค้านนโยบายการค้าของปธน.ทรัมป์ โดยเรียกร้องให้มีการเข้าร่วมงานรณรงค์

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ “เบจ บุ๊ค” เมื่อวันพุธ(12ก.ย.)โดยระบุว่า เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐขยายตัวในระดับปานกลาง ขณะที่ภาคธุรกิจยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะใกล้ แต่ภาคธุรกิจได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้า เนื่องจากการที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเมื่อไม่นานมานี้ ได้ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้นทั่วสหรัฐ

“ธุรกิจในหลายภาคส่วนรายงานว่า มาตรการเก็บภาษีนำเข้าส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิต ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ต้นทุนการนำเข้าของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วกว่าราคาขาย แม้ภาคธุรกิจพยายามที่จะผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปให้กับผู้บริโภคก็ตาม” เฟดระบุในรายงานเบจบุ๊ค ซึ่งได้จากการรบรวบข้อมูลจนถึงวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา

รายงานยังระบุด้วยว่า ในเขตนิวยอร์กนั้น ภาคธุรกิจรายงานว่าราคานำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิต ภาคธุรกิจค้าปลีก ภาคการศึกษาและสุขภาพ ส่วนในเขตฟิลาเดลเฟียนั้น บริษัทในท้องถิ่นเกือบ 2 ใน 3 ระบุว่า มาตรการเก็บภาษีนำเข้าส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น และยังส่งผลกระทบต่ออุปทานสินค้าเช่นกัน

ส่วนภาคธุรกิจในเขตคลีฟแลนด์ได้แสดงความกังวลว่า ผลกระทบของมาตรการภาษีนำเข้าจะส่งทำให้ราคาอุปกรณ์ด้านการขนส่งรุ่นใหม่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงรถบรรทุก

ขณะนี้ สหรัฐและจีน ได้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าแต่ละฝ่ายในวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.ค. และในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา จีนได้เปิดเผยรายชื่อสินค้าสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จีนเตรียมตอบโต้ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาคธุรกิจสหรัฐได้รวมตัวกันโดยใช้ชื่อว่า “Americans for Free Trade” เพื่อต่อต้านนโยบายการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยกลุ่มดังกล่าวประกอบด้วยบริษัทที่มาจากอุตสาหกรรมต่างๆ นับตั้งแต่การผลิตของเล่นไปจนถึงเทคโนโลยี