นายกฯ ให้กำลังใจ 'เฌอปราง' บอกอย่ายอมแพ้คนไม่ดี

นายกฯ ให้กำลังใจ 'เฌอปราง' บอกอย่ายอมแพ้คนไม่ดี

นายกฯ ให้กำลังใจ "เฌอปราง" หลังโดนโจมตี รับใช้ "เผด็จการ" บอก อย่ายอมแพ้คนไม่ดี คนไร้ศีลธรรม เดือดสื่อจ้องจับผิด

เมื่อวันที่ 11 ก.ย.61 เวลา 14.10 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม. ถึงกรณีกลุ่มต่าต้านรัฐบาลออกมาโจมตีเฌอปราง วง BNK48 ว่าเป็นเครื่องมือรับใช้เผด็จการ หลังออกรายการเดินหน้า ประเทศไทยว่า ทำได้หรือไม่ ไม่ว่าในหรือต่างประเทศ เขายอมหรือไม่ กฎหมายเขียนไว้หรือเปล่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มีหรือไม่ ไอ้คนพวกนี้ส่วนใหญ่ก็หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศแล้วก็ทำเข้ามา การโจมตีเญอปรางตนก็สงสารเด็ก การที่ทุกคนมาช่วยกันทำความดีให้ประเทศมันเสียหายตรงไหน และตนก็ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรจากดาราพวกนี้ เขาจะเอาเงินเอาทองมาให้ตนหรือ ก็ไม่ใช่หรือตนจะไปทำให้เขามีรายได้ดีขึ้นก็ไม่ใช่ ดังนั้น เมื่อเราต้องการคนรุ่นใหม่ ซึ่งมาได้หลายอย่าง จะมาเป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ เป็นอะไรก็ได้เชิญเถอะ ถ้าเลือกตั้งมาได้ก็เป็นไป แต่คนที่ไม่ได้เข้าสู่การเมือง เขาก็ต้องมาสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหา และการดำเนินนโยบายทางการเมืองต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เขาเพียงแต่มาเป็นเหมือนโฆษกรัฐบาล โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย นั่นคือความผิดหรือ การทำความดีมันผิดตรงไหน สงสารน้องเญอปรางและอีกหลายคนก็โดนหมด เพราะถูกมองว่ามาเอื้อประโยชน์ ซึ่งผมไปเอื้อประโยชน์ตรงไหน หรือเป็นการโหนกระแส แล้วมันกระแสใคร กระแสรัฐบาลก็แรงอยู่แล้ววันนี้ เขียนข่าวมาตั้ง 3-4 ปีแล้ว รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนกระแสในทางที่ดี ถูกต้อง ยั่งยืน มั่นคง มั่งคั่ง แล้วมันผิดตรงไหน บางคนก็ไม่ฟังตนพูด เบื่อขี้หน้า ตนพูดไม่เพราะบ้าง ดุเกินไปบ้างก็เอาสาวๆ มาพูด ที่ผ่านมาข้อมูลก็แพร่ทั่วไป เพียงแต่คนไม่ค่อยได้อ่าน ก็เอาเขามาอ่านทบทวน ฟังเขาหน่อยมันไม่ดีหรือ

“ขอให้กำลังใจน้องเฌอปราง อย่าไปยอมแพ้คนไม่ดี คนไม่มีคุณธรรม ศีลธรรมอย่าไปยอมแพ้ ใครก็ได้ ผมบอกแล้ว การทำความดีทำได้ทุกเวลา ทุกหน้าที่ทุกกิจการ ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อประเทศชาติและประชาชนของเราต่างคนต่างไม่ได้ประโยชน์ แต่ประเทศชาติและประชาชนได้ประโยชน์ ตรงมองตรงนี้ อย่ามองแค่หนึ่งกับสองต้องมองสามคือประเทศ ประชาชน ถ้าเขารู้อย่างนี้ จะได้เข้าช่องทางของรัฐบาลได้ เช่นการทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปีแรกน้อยมาก แต่ปีสองพองบประมาณลงไปก็มาสมัครกันมากขึ้น และคิดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่คนยังเคยชินกับการที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แล้วได้งบประมาณออกไปรัฐบาลจะแก้ตรงนี้ให้ได้ ไม่ใช่แยกชนชั้นแต่แยกเพื่อให้รู้ว่าจะช่วยเหลือคนแต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายยังไง วันหน้าจะได้พัฒนาสู่รายได้ที่ดีขึ้น” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า ถ้าทุกคนไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรก็อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรรัฐบาลก็ไม่ปวดหัวไม่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง สร้างความขัดแย้งกับใครคนก็ชอบ รักรัฐบาล เลือกตั้งกี่ทีก็มาหมดวันนี้ต้องจัดระเบียบบ้านเมือง สร้างการรับรู้ให้ได้ ว่าจะร่วมมือกันอย่างไร การใช้งบประมาณจะคุ้มค่าอย่างไร การเลือกตั้งจะได้รัฐบาล หรือส.ส.ที่ดีมาอย่างไร ที่ทำเพื่อคนทั้งประเทศ

“ผมพูดตรงนี้มันเอื้อประโยชน์ใคร ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร และผมไม่ได้อยู่พรรคไหนซักพรรคนึง ฉะนั้น อย่าเพิ่งมากังวลกันเรื่องนี้ ผมไม่อยากให้ฟังนักการเมืองมากนักในตอนนี้ ฟังได้แต่อย่ามาไล่ล่ากับผม มันไม่ใช่คนละเรื่องกัน แยกแยะให้ออกหน่อยว่าผมกำลังทำอะไร และเขากำลังทำอะไร เขาก็เตรียมการไปสู่การเลือกตั้งของเขา สิ่งที่ผมกังวลคือเมื่อถึงช่วงการปลดล็อกอะไรต่างๆ มันจะวุ่นวายหรือไม่ ท่านต้องช่วยผมลดความขัดแย้งตรงนี้ ไม่เช่นนั้น บ้านเมืองจะเสียหายการลงทุนการท่องเที่ยวจะติดชะงัก จะได้อะไรขึ้นมา ได้รัฐบาลเดิมๆ ขึ้นมา ที่ชนะคะคานมาด้วยความขัดแย้งบิดเบือนซึ่งกันและกัน แล้วจะได้รัฐบาลที่ดีมาไหม” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้อะไรที่ดีก็ควรจะชมหลายอย่าง เริ่มต้นมาจากหลายรัฐบาล ไม่ใช่จากรัฐบาลนี้ อะไรดี ตนทำต่อ และทำให้ดีขึ้น เพิ่มงบฯ มากขึ้น ตนทำอะไรที่ล้มล้างของเดิมหรือไม่เพียงแต่ทำให้ดีกว่า แต่ถามว่าดีกว่าทุกคนพอใจหรือไม่ ยาก ความพอใจของคนทั้งโลก มนุษยชาติไม่มีที่สิ้นสุด เพราะทุกคนก็อยากให้ครอบครัวและตัวเองสบายมากสุดโดยบอกให้รัฐดูแล รัฐทำได้แค่ขยายโอกาสร้างความเป็นธรรมเท่าเทียมดุแลผู้มีรายได้น้อยในกรอบงบฯ ที่มีอยู่ตามพ.ร.บ.งบประมาณจัดซื้อจัดจ้างตรงนี้ต้องสร้างความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นก็เข้าใจผิดหมด ไม่ใช่ทำอะไรก็เทลงไป สุดท้ายทำให้เกิดหนี้

“วันนี้ผมพูดเยอะเกินไปแล้ว พอพูดเยอะๆ ก็บอกว่าจดไม่ทันไม่เข้าใจนายกฯ พูดไม่รู้เรื่อง หัดรู้เรื่องกันเสียบ้าง หัดฟังตนพูดและคิดตามไปด้วย ถ้าคิดเพียงว่าจะจด วันนี้เป้าหมายเข้าให้เก็บเรื่องนายกฯหงุดหงิดหรือเปล่า พูดอะไรผิดพูดอะไรไม่เพราะอยู่แค่นี้ แล้วไปทะเลาะกันอยู่ในโซเซียลมีเดีย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว