“วูดู” มนตราครีมพ่อมด อินไซท์ความงามหญิงสาว

ในยุคที่เครื่องสำอางเกาหลีแห่แหนเข้ามาตีตลาดไทยกว่า 8 ปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดความงามในเมืองไทยต่างก็เดินตามเทรนด์จุดขายบนเครื่องประทินผิว ในมุมเดิมๆ ซึ่งมีจุดขายบนคีย์เวิร์ด เจ้าหญิง (Princess), ปาฎิหารย์ (Miracle), ความสวยงาม (Beauty) หรือ ว้าว

ปรีชา สันลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิ๊กไอเดีย คอร์ปอเรท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ก่อตั้งแบรนด์ วูดู เดอะ เฮอริเทจ แอนด์ บิวตี้ อดีตนักออกแบบบรรจุภัณฑ์และผู้ทำการตลาดแบรนด์เครื่องสำอางจากเกาหลีให้กับบริษัทมัลติแบรนด์ ผู้นำเข้าแบรนด์เกาหลีมาจัดจำหน่ายในไทย จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่เขาค้นพบว่า คนไทยก็มีความสามารถและเรื่องราวในการพัฒนาถ่ายทอดทำการตลาดให้กับเครื่องสำอางแบรนด์ไทย

“ในยุคนั้นเกาหลีฟีเวอร์มาก เห็นแบรนด์เกาหลีเข้ามาในไทยจำนวนมากจนคิดว่า เราน่าจะทำแบรนด์ตัวเอง เพราะเรามีความสามารถไม่ต่างกัน เด่นกว่าเค้าตรงที่มีเรื่องเล่าและจิตวิญญาณ เป็นจุดขายที่หลายประเทศขาด”

จึงเป็นที่มาของการฉีกทุกกฎเกณฑ์ด้านการตลาดความงาม จากที่จุดขายความสวยงามแบบที่ใช้กันเกลื่อนตลาด มาเป็นการขายความมีมนต์ขลัง เรื่องราว ตำนานที่น่าค้นหา ภายใต้แบรนด์ “วูดู”

“ผมเกิดคำถามว่าทำไมทุกคนต้องเล่นในเรื่องของความวินเทจ คาวาอี้ (น่ารัก) ซึ่งใช้คำว่า บิวตี้ เจ้าหญิง เป็นต้น หากเราคิดเหมือนเขาผมต้องเดินตามเค้าอีกกี่คนจึงจะเป็นผู้นำ และเป็นแบรนด์ที่ว้าวได้ จึงต้องหาความแตกต่าง ในวันที่ทุกคนใส่เสื้อสีแดงกันหมด เราใส่เสื้อเขียว อาจจะดูตลก เปิ่น เชย แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งมันคุ้มค่า”

เบื้องลึกความเชื่อมั่นว่าวูดู ลัทธิความเชื่อแห่งมนต์ดำ ไสยศาสตร์ จะเป็นแบรนด์ที่มีเสน่ห์ทำให้ค้นหา มาจากความรู้จักอินไซท์ของผู้หญิงทุกคนที่เขาไปนั่งเฝ้าดูพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของคนในตลาดค้าส่งเครื่องสำอางแห่งหนึ่ง เพื่อค้นหาคำตอบความต้องการเชิงลึก (Insight) ภายในแท้จริงแล้วผู้หญิงต้องการอะไร สวยแบบไหน

“เราค้นพบเบื้องลึกความต้องการความสวยงามของผู้หญิงทุกคนคืออยากสวยจากเบื้องลึก จึงมีผู้หญิงหลายคนที่ยอมไปสักสาริกาลิ้นทอง หรือลงอักขระต่างๆ “ เขาอ่านใจผู้หญิงทุกคนจนถ่ายทอดลงไปสู่แบรนด์วูดู

ช่วงแรกๆ ของการเริ่มทำแบรนด์ปรีชา ก็ฉีกกฎเกณฑ์โดยการเข้าไปขายในตลาดล่าง สินค้าตัวแรก คือครีมว่านราคะ หรือว่านนางคำ จำหน่ายในชื่อ “VOODOO White Spell” ขายดีแบบโกยเงินเป็นกอบเป็นกำ

หลังจากนั้นไม่นานปี 2559 ตั้งก็ลงทุนตั้งโรงงานเป็นผู้รับจ้างผลิตสินค้า(OEM)ออเดอร์เข้ามามากมาย จึงเป็นโอกาสในการสะสมเงินทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจในอนาคต

หลังจากทำเครื่องสำอางรับจ้างผลิตและอยู่ในตลาดล่างมาสักระยะ ทำให้มีเงินก้อนโตประมาณหนึ่งเพื่อนำไปพัฒนาแบรนด์

“ตลาดล่างเป็นตลาดทำเงิน แต่เรารู้ดีว่าหากอยู่ในตลาดล่างนานๆ ก็จะหนีไม่พ้นสงครามราคา ที่แข่งแค่ราคา ท้ายที่สุดคนก็ไม่จำแบรนด์ เราจึงเริ่มคิดหาทางโผล่พ้นน้ำหันไปทำแบรนด์”

สินค้าตัวแรกของการรุกสร้างแบรนด์ จึงกลับมาชูความเป็นแบรนด์วูดู ให้คนจดจำอีกรอบ เป็นนวัตกรรมที่ฉีกกฎเกณฑ์สร้างความแปลกใหม่ให้ตลาดอีกรอบ ด้วยการคิดค้นครีมสกัดจากพิษงู วูดู อเมซอน บูสเตอร์ สลีปปิ้ง ครีม (VOODOO Amezon Booster Sleeping Cream) เปิดตัวหวังทำตลาดในไทยให้คนตั้งคำถามจนอยากทดลอง

ปรากฏว่า ครีมพิษงู ช็อกตลาดคนไทยเกินไป มีคนกล้าทดลองน้อยมาก

“ในยุคนั้นคนไทยไม่เข้าใจ คนไทยอยู่รู้จักแต่หอยทาก บีบีครีม ผมจึงขายไม่ได้ คงหักดิบคนไทยเกินไป เค้าช็อก” แม้จะล้มเหลวในไทยแต่ก็เป็นจุดเปลี่ยนให้ไปนำครีมนี้ไปลองตลาดนจีน

เขาใช้ตลาดค้าส่งอี้อู เป็นแหล่งเริ่มต้นที่สร้างการรับรู้แบรนด์โดยการออกแบบเสื้อยืด สกรีนแบรนด์พร้อมเบอร์โทรไปแจกจ่ายให้คนมาทำธุรกิจหาสินค้าไปขาย พร้อมกับแจกตัวอย่างสินค้า ถูกจังหวะ ถูกช่องทาง เพียงไม่นานก็มีผู้ค้าติดต่อมาหาเขา เพราะเขามองว่าแบรนด์ของเขาคือสิ่งที่คนจีนต้องการ เป็นใบเบิกทางทำให้วูดู ได้ไปขึ้นเชลฟ์ขายในร้านค้า อีคอมเมิร์ซ ระดับพรีเมี่ยม อย่าง เจดีดอทคอม และทีมอลล์ จนเป็นที่มาของออเดอร์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เขามองว่า 3 ส่วน ที่ทำให้วูดู สำเร็จในจีน ประกอบด้วย นวัตกรรม ศิลปะ และเรื่องเล่าคนอยากฟัง

“คนจีนบอกว่าวูดู เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ เรื่องราว ตำนาน เป็นสิ่งที่คนจีนขาด แม้บรรจุภัณฑ์สีดำ ใครบอกว่าเป็นสีที่คนจีนไม่ชอบ กลับกลายเป็นสินค้าที่ทำยอดขายดีมาก”

ปัจจุบันวูดูขยายทำร้านอาหารวูดู คาเฟ เป้าหมายไม่ใช่การขายอาหารแต่เป็นหน้าร้านที่แนะนำครีม และฉายความมีอัตลักษณ์ของแบรนด์วูดู เปิด 2 แห่งคือ ในกรุงเทพฯ และในคุณหมิง ประเทศจีน

แผนขั้นต่อไปหลังจากแบรนด์ประสบความสำเร็จในจีน เริ่มวกกลับมาทำตลาดในไทย และรุกไปกลุ่มประเทศมุสลิม เช่น กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก เพราะกลุ่มธุรกิจเป็นผู้เป็นเจ้าของและพนักงานกว่า 90% เป็นมุสลิม จึงได้การรับรองมาตรฐานฮาลาล

ด้วยความที่เป็นแบรนด์ที่มีเรื่องเล่าและตำนาน รวมถึงการเติบโตอย่างน่าทึ่ง “วูดู” จึงได้รับรางวัล ผู้ส่งออกดีเด่น (PM Award ปี 2561) 2 รางวัล คือ รางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) และรางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal) จากหมวดสินค้าอาหาร สุขภาพและความงาม

------------------------------

Key to Success

“วูดู” มนตราธุรกิจครีม

-นวัตกรรม ศิลปะและเรื่องเล่า

-ทำตลาดล่างเก็บเงินสร้างแบรนด์

-กล้าฉีกกระแสขายความต่าง

-เจาะตลาดจีนผ่านย่านค้าส่ง

-ทำร้านอาหารสร้างไลฟ์สไตล์แบรนด์