สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์วันที่ 3-7 กันยายน 2561

สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์วันที่ 3-7 กันยายน 2561

ราคาสินค้าเกษตรสัปดาห์นี้ ถั่วเหลืองและข้าวมีราคาลดลง

ข้าวโพด : ราคาทรงตัว

         ในสัปดาห์นี้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกสู่ตลาดลดลง จากการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ยังชะลอตัวจากภาวะฝนตกชุกในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ราคาข้าวโพด ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่หาบละ 510 บาท

          ด้านราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 5 กันยายน 2561 รอบส่งมอบเดือนกันยายน ราคาอยู่ที่ 351.75 เซนต์/บุชเชล เป็นราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น ถึงแม้ภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ปลูกข้าวโพดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมในบางจุดแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตส่วนใหญ่ โดยคาดว่าภาวะฝนตกในสหรัฐฯ อาจเบาบางลงในสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกันมีเอกชนบางรายปรับตัวเลขคาดหมายผลผลิตลดลงจากเดิม จากภาวะฝนที่จะทำให้การเก็บเกี่ยวล่าช้าลงเล็กน้อย นอกจากนี้ อุปสงค์ทุกด้านดีขึ้น ทั้งการส่งออกข้าวโพดอาหารสัตว์และความต้องการเพื่อนำไปผลิตเอทานอล โดยอาร์เจนตินาซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญของสหรัฐกำลังมีปัญหาการส่งออกข้าวโพดเนื่องจากเงินเฟ้อสูงมาก ทำให้เกษตรกรชะลอการขาย อีกทั้งรัฐบาลอาร์เจนตินาพิจารณาจะขึ้นภาษีส่งออกเป็น 10%

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะยืนอ่อน

 

ถั่วเหลือง : ราคาลดลง

          ราคากากถั่วเหลืองที่ได้จากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าสัปดาห์นี้ ลดลงจากกิโลกรัมละ 16.75 บาท เป็นกิโลกรัมละ 16.00 บาท เนื่องจากปริมาณผลผลิตถั่วเหลืองของสหรัฐฯ เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่ไม่สามารถส่งออกกากถั่วเหลืองไปยังตลาดใหญ่อย่างจีนได้ นอกจากนี้ผลผลิตของบราซิลก็เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเช่นกัน

          ด้านราคากากถั่วเหลืองและเมล็ดถั่วเหลือง ตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 5 กันยายน 2561 รอบส่งมอบเดือนกันยายน ราคากากถั่วเหลือง อยู่ที่ 306.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ชอร์ตตัน  ส่วนราคาเมล็ดถั่วอยู่ที่ 819.50 เซนต์/บุชเชล เป็นราคาที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีปัญหาจีนชะลอการซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ และสภาพฝนที่ตกหนัก รวมไปถึงมีแนวโน้มว่าปีหน้าเกษตรกรของสหรัฐฯ อาจลดพื้นที่การปลูกถั่วเหลืองลง แต่อุปสงค์การส่งออกในภาพรวมของสหรัฐฯ ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามภาวะโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) ที่เกิดในประเทศจีน ที่อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการอาหารสัตว์ ทั้งนี้ภาคเอกชนคาดหมายว่าผลผลิตถั่วเหลืองสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นจากเดิม และจะทำให้สต็อกถั่วเหลืองสหรัฐฯ มีมากเป็นประวัติการณ์ ขณะที่บราซิลอาจเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองในปีหน้าจากผลกระทบของค่าเงินบราซิลตกต่ำมาก

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองน่าจะยืนอ่อน

  

ปลาป่น : ราคาทรงตัว

          สัปดาห์นี้ความต้องการใช้ผลผลิตปลาป่นมีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแม้ว่าปัจจุบันยังอยู่ในช่วงมรสุมทำให้การจับปลายากลำบาก แต่ปริมาณปลาป่นยังคงเพียงพอกับความต้องการใช้ ทำให้ราคาปลาป่นโดยรวมยังคงเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา ปลาป่นเกรดกุ้งราคากิโลกรัมละ 47.50 บาท ปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป กิโลกรัมละ 42.20 บาท และเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน กิโลกรัมละ 39.70 บาท

          สำหรับปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 40.20 บาท และปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน  60 ราคากิโลกรัมละ 37.70 บาท

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว

 

ข้าว : ราคาลดลง

           สัปดาห์นี้ราคาข้าวส่งออกต่างประเทศลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. จากราคาตันละ 432 ดอลลาร์สหรัฐฯ เหลือตันละ 425 ดอลลาร์สหรัฐฯ  ด้านราคาปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ลดลงจากราคาตันละ 351 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นราคาตันละ 350 ดอลลาร์สหรัฐฯ

           ด้านการซื้อขายข้าวตลาดในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคาปรับลงจากกระสอบละ 1,270 เป็นกระสอบละ 1,250 บาท ด้านปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นจากราคากระสอบละ 1,000 บาท เป็นกระสอบละ 1,010 บาท

            แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวในประเทศน่าจะทรงตัว

 

สุกร : ราคาทรงตัว

          ผลจากความพยายามแก้ไขปัญหาราคาสุกรในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณการผลิตปัจจุบันอยู่ในระดับที่สร้างเสถียรภาพราคามากขึ้น โดยราคาประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติทรงตัวที่ 65-69 บาทต่อกิโลกรัม

ส่วนลูกสุกรขนาด 16 กิโลกรัมต่อตัว ยืนราคาที่ตัวละ 1,800 บาท (บวกลบ 65)

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจทรงตัว

 

ไก่เนื้อ : ราคายืนอ่อน

            การบริโภคเนื้อไก่สัปดาห์นี้ชะลอตัวลง เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกมากขึ้นในหลายพื้นที่ส่งผลต่อการซื้อขายในตลาด ขณะที่ผู้เลี้ยงไก่อิสระยังลงลูกไก่เลี้ยงไม่มากนัก แต่ยังคงมีปริมาณไก่ใหญ่ที่เหลือจากการขายสะสมอยู่เพียงพอกับการบริโภค โดยราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์มของสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อยืนอ่อนที่กิโลกรัมละ 36 บาท

ด้านราคาลูกไก่เนื้อลดลงจากตัวละ 14.50 เป็นตัวละ 13.50 บาท ส่วนลูกไก่ไข่ทรงตัวที่ตัวละ 18.00 บาท

            แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะยืนอ่อน

 

ไข่ไก่ : ราคาทรงตัว

          สัปดาห์นี้ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ที่ออกสู่ท้องตลาดสมดุลกับการบริโภค ส่งผลให้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มจากการสำรวจทั่วไปในท้องตลาดไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ฟองละ 2.60 บาท

          แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะทรงตัว

-----------------------------------------------------------

ที่มา : สื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ : 02-766-7343-5
E-mail : [email protected]