ราคาน้ำมันดิบดิ่งกว่า1.5 %

ราคาน้ำมันดิบดิ่งกว่า1.5 %

ราคาหลุด 69 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเฮอร์ริเคนไม่กระทบแหล่งผลิตน้ำมันสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพุธ(5ก.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลงกว่า 1.5% หลุดระดับ 69 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคน“กอร์ดอน”อ่อนแรงลง และเคลื่อนตัวออกจากอ่าวเม็กซิโก โดยไม่ได้สร้างความเสียหายต่อแหล่งผลิตน้ำมันดังกล่าว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.52%  ปิดตลาดที่ 68.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 91 เซนต์ ปิดที่ราคา 77.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่า พายุเฮอร์ริเคน“กอร์ดอน”เตรียมพัดถล่มอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญ ขณะที่บริษัทอนาดาร์โค ปิโตรเลียม คอร์ปได้อพยพพนักงาน และปิดการผลิตที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน 2 แห่งในบริเวณดังกล่าว

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวลงของสกุลเงินตุรกี และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งนายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุว่า ความขัดแย้งทางการค้าจะส่งผลกระทบต่อุปสงค์น้ำมันในที่สุด

ทั้งนี้ สหรัฐเตรียมทำสงครามการค้ารอบใหม่กับจีนในสัปดาห์นี้ โดยแหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวกับคนสนิทของเขาว่า เขาจะทำการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าของจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่การเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในวันที่ 22-23 ส.ค.ได้สิ้นสุดลง โดยไม่มีความคืบหน้าใดๆ ขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันคิดเป็นวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์