‘เอ็นทีที คอมฯ’เดินหน้าขยายธุรกิจในไทย

‘เอ็นทีที คอมฯ’เดินหน้าขยายธุรกิจในไทย

“เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์” ปักหลักตลาดไทย เดินหน้าลงทุนขยายธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ บริการไอซีที พร้อมเล็งต่อยอดธุรกิจใหม่ “เคเบิลใต้น้ำ” เผยอยู่ระหว่างหาพันธมิตรร่วมลงทุน

นายเท็ตซึยะ โชจิ ประธานและประธานฝ่ายบริหาร บริษัท เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า มีแผนขยายการลงทุนเพื่อสร้างความแข็งแรงในการทำธุรกิจในประเทศไทย โดยแนวทางที่สำคัญจะมีการซีเนอร์ยีธุรกิจในเครือ 3 บริษัทคือ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์(ประเทศไทย), เอ็นทีที ซิเคียวริตี้, และไดเมนชั่นดาต้า เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงกับความต้องการของตลาด

นอกจากนี้ มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนเพื่อขยายธุรกิจเคเบิลใต้น้ำ โดยการลากสายมาจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเพื่อลงทุนร่วมกัน โดยทางเอ็นทีทีเปิดกว้างที่จะทำงานกับทุกราย และหากเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมคาดว่ากลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการจะเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมต่างๆ

เขากล่าวว่า ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีความต้องการใช้งานบริการดาต้าเซ็นเตอร์ อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์(ไอโอที) การเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไปสู่ดิจิทัล บริการคลาวด์ สอดคล้องไปกับวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นและนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล

“เราให้ความสำคัญกับการศึกษาความต้องการของตลาด เพื่อนำไปพัฒนาการให้บริการที่ตอบโจทย์ เชื่อว่าด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาในตลาดไทยกว่า 60 ปี และการทำงานที่มีการแบ่งตลาดที่ชัดเจนของบริษัทในเครือทั้ง 3 จะทำให้สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้แน่นอน”

สำหรับความคืบหน้า การขยายตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบเฟสที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มสร้างได้ภายในปีหน้า ส่วน 2 เฟสแรกขณะนี้เต็มไปแล้วกว่า 70-80% ในแผนจะทำทั้งหมด 6 เฟส

ปัจจุบัน ฐานลูกค้าในไทยหลักๆ คือบริษัทญี่ปุ่น กลุ่มยานยนต์ ค้าปลีก การเงิน นอกจากนั้นยังมีบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติต่างๆ รวมทั้ง 3 บริษัทมีฐานลูกค้ากว่า 2,000 ราย

บริษัทตั้งเป้าไว้ว่า จะผลักดันให้ธุรกิจในประเทศไทยเติบโตให้มากที่สุดในทุกๆ ปี ปัจจุบันมีพนักงาน 1,400 คน

เอ็นทีทีเผยด้วยว่า นอกจากด้านธุรกิจ มีแผนเข้ามาสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ(เอ็มโอยู) ในการจัดกิจกรรมเพื่อการสนับสนุนการศึกษาและให้ความรู้ในการผลิตวิศวกรที่มีคุณภาพและมีทักษะสูงกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพทางด้านไอซีที วางรากฐานที่มั่นคงในการดำเนินงานและสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต