'ฉัตรชัย' แจงครม.สถานการณ์น้ำจับตา 'เพชรบุรี-กาญจนบุรี' น่าห่วง

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 61 ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานต่อที่ประชุมถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุเบบินคาว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังคงต้องช่วยเหลือประชาชนต่อไป โดยเฉพาะ 5 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย น่าน พะเยา เชียงราย เพชรบูรณ์ และหนองคาย ส่วนจังหวัดอื่นสถานการณ์คลี่คลายขึ้นในทิศทางที่ดีแล้ว

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า น้ำที่ไหลผ่านลำน้ำในจ.น่าน จะมาลงที่เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งขณะนี้เขื่อนยังสามารถรับน้ำได้อีกปริมาณมาก พื้นที่นี้จึงไม่มีปัญหา ขณะที่ลุ่มน้ำยมในพื้นที่จ.พะเยา ยังไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำ จึงต้องใช้วิธีบริหารจัดการด้วยการเปิดทางน้ำระบายไป เชื่อว่าแผนดังกล่าวจะสามารถบริหารจัดการได้ ไม่ส่งผลกระทบกับ จ.สุโขทัย นอกจากนี้ ในส่วนจ.เชียงราย เพชรบูรณ์ และหนองคาย ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือเรื่องของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพบว่าพื้นที่จังหวัดด้านฝั่งตะวันตก ทั้งกาญจนบุรี เพชรบุรี แก่งกระจาน ปรานบุรี ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนในจังหวัดดังกล่าว มีปริมาณค่อนข้างสูง

“นายกฯ เน้นย้ำว่าหลายคนเข้าใจไม่ถูกต้อง ว่าที่นายกฯไปดูที่แก่งกระจานแล้ว แต่ถ้าวันหน้าน้ำท่วมอีก จะบอกว่าไหนว่าบริหารจัดการได้ ซึ่งต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่าครั้งก่อนหน้านั้น เราบริหารจัดการโดยใช้คลอง D9 ช่วยตัดน้ำระบายน้ำ ทำให้ไม่เกิดผลกระทบกับจังหวัดเพชรบุรี แต่ว่าพายุที่จะมาลูกใหม่ เราไม่สามารถเอาผลของการที่ไปตรวจครั้งแรกมาเป็นเครื่องยืนยันว่าจะไม่ท่วม แต่จะใช้หลักบริหารจัดการน้ำในแบบเดียวกัน โดยในแต่ละช่วงเวลาจะมีเกณฑ์สูงสุด และต่ำสุด ของอ่างเก็บน้ำ เพื่อจะพร่องน้ำในการรองรับฝนชุดใหม่ที่จะมา และถ้ามีปริมาณฝนที่คาดว่าจะมากขึ้น ก็จะมีการปล่อยน้ำให้มากขึ้น” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว