'ธ.ก.ส.' เร่งเยียวยาเกษตรกรประสบอุทกภัย

'ธ.ก.ส.' เร่งเยียวยาเกษตรกรประสบอุทกภัย

ธ.ก.ส.ส่งเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตรจากพายุถล่มทั่วทุกภาค เตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมบรรเทาความเดือดร้อนและมาตรการฟื้นฟูอาชีพในระยะยาว

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.61 นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าจากอิทธิพลพายุโซนร้อนเซินติญ เบบินคา และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมพื้นที่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการและประชาชนในพื้นที่ ธ.ก.ส. จึงเร่งดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรลูกค้าอย่างเร่งด่วน คือ มอบหมายให้พนักงานในพื้นที่ประสบอุทกภัย ออกเยี่ยมเยียนลูกค้าและนำถุงยังชีพไปมอบเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น รวมถึงให้กำลังใจแก่เกษตรกรลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ และสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นภายหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมได้คลี่คลายลง เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาหามาตรการฟื้นฟูการประกอบอาชีพและมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ที่เหมาะสมเพิ่มเติมในระยะต่อไป

ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ธ.ก.ส.ได้นำเงินจากกองทุนบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยธรรมชาติและภัยพิบัติขอ งธ.ก.ส. เพื่อจัดหาถุงยังชีพนำไปมอบให้เกษตรกรลูกค้าและประชาชนที่เดือดร้อน สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 เมื่อมีการสำรวจความเสียหายในพื้นที่ประสบอุทกภัยเรียบร้อยแล้ว และพบว่ามีความเสียหายเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ ก็จะได้รับความคุ้มครองไร่ละ 1,260 บาท โดยสามารถเลือกรับโอนค่าสินไหมผ่านบริการพร้อมเพย์ได้ทันที โดยเกษตรกรจะต้องแจ้งการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2561/2562 กับ กรมส่งเสริมการเกษตรในท้องที่ให้เป็นปัจจุบันด้วย

“พนักงานของ ธ.ก.ส.ในพื้นที่เกิดเหตุทุกแห่งพร้อมเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าอย่างเร่งด่วนด้วยความเต็มใจ สำหรับภาระหนี้สินที่เกษตรกรลูกค้ามีอยู่กับ ธ.ก.ส.นั้น ไม่ต้องกังวลใจ ธนาคารพร้อมเข้าไปดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ในเบื้องต้นจะมีการผ่อนผันการชำระหนี้ออกไปไม่เกิน 12 เดือน โดยไม่คิดดอกเบี้ยปรับ และ ธ.ก.ส.จะพิจารณามาตรการเพิ่มเติม เช่น การสนับสนุนให้มีการฟื้นฟูอาชีพภายหลังจากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติต่อไป” นายอภิรมย์กล่าว