‘Penguint’ สู่บิ๊ก 5 ทราเวลเอเจนซีบนมือถือ

‘Penguint’  สู่บิ๊ก 5 ทราเวลเอเจนซีบนมือถือ

เป็นช่วงเวลาที่ Penguint ต้องการขยายฐานตลาดให้กว้างขึ้น

เมื่อตลาด Online Travel Market ทั้งประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราการเติบโตสูงมาโดยตลอด ส่วนใหญ่ใช้จ่ายไปกับตั๋วเครื่องบินและโรงแรมที่พัก

ในอีกด้านก็มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า ท่ามกลางการขยายตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ขยายตัวอย่างมากนี้ยังมีอีก 66% ที่ยังซื้อตั๋วเครื่องบินจากช่องทางออฟไลน์อยู่ จากเหตุกังวลเรื่องความปลอดภัยในการให้ข้อมูลทางการเงินกับทางเว็บไซต์และอื่นๆ ทำให้คนกลุ่มนี้ยังไม่กล้าตัดสินใจที่จะลองซื้อตั๋วผ่านออนไลน์

สิ่งที่เกิดขึ้น กิตติกร กรรณเลขา CEO&Co-Founder , Penguint สตาร์ทอัพขายตั๋วเครื่องบินผ่านแอพพลิเคชั่น มองว่าเป็น “โอกาส” ที่จะเริ่มออกเดินบนเส้นทางสายสตาร์ทอัพ จากเดิมเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เฮาส์รับพัฒนาระบบให้กับอุตสาหกรรม Travel technology มา 14 ปี

หลังจากเลือกแล้วว่าจะทำแอพพลิเคชั่นบนมือถือรับจองตั๋วเครื่องบินก็ทำให้ต้องตัดสินในหลายๆเรื่องตามมา

“บริษัทแรกทำ Travel technology เป็น Software house ที่ตอนนี้ก็ยังดำเนินธุรกิจอยู่เช่นเดิม แต่พอเริ่มโปรเจคต์นี้ ทำให้ตัดสินใจว่าจะแยกคนออกมาเพราะรู้ว่าวัฒนธรรมการทำงานแบบเดิมกับสตาร์ทอัพไม่เหมือนกัน

การเปลี่ยนจึงเริ่มตั้งแต่ตัวคนทำงาน ประมาณ 12 คน ที่สำคัญต้องมี Mindset กล้าที่จะล้มเหลว เพราะอยู่ในบิรษัทเก่าจะล้มเหลวไม่ได้ เพราะทำโปรเจ็คใหญ่ เราไม่สามารถบอกว่าพรุ่งนี้ให้ลูกค้าด่าร้อยคนเพื่อเก็บฟีดแบ็ค

ขณะที่การทำสตาร์ทอัพ เราไม่รู้ว่าลูกค้าชอบอะไร สิ่งที่เราทำได้ก็คือการทดลอง ส่วนใหญ่ล้มเหลวมากกว่าสำเร็จ แต่อย่างน้อยทำ 100 ครั้งจะเจอสำเร็จสักครั้งก็ถือว่าเราโอเคแล้ว”

วัฒนธรรมการทำงานที่เปลี่ยนไป กิตติกร บอก เป็นความยากในแรกเริ่มของการทำงาน ต้องทำให้คนในทีมทำการค้นหา ทดลอง วัดผล และพร้อมจะล้มเหลว

ล้มเหลวแล้วก็ยังลุกขึ้นมาทำงานต่อไปได้ นี่เป็นความยากในการขยับคนจากบริษัทเก่ามาสู่การทำงานรูปแบบใหม่

โดยร่วมกันพัฒนา Penguint ให้เป็นแอพพลิเคชั่นที่แก้ปัญหาให้กับสองส่วนหลัก อีกด้านบริการกับลูกค้าที่ต้องการจองตั๋วออนไลน์ให้ได้รับความสะดวกผ่านมือถือ

อีกส่วน เป็นการสนับสนุนให้ Travel Agency ที่วันนี้ยังมีอยู่อีกมากให้อยู่ต่อไปได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า

“อย่างที่รู้ออนไลน์มาแล้ว หากใครไม่ขึ้นมาอยู่บนออนไลน์ก็คงลำบาก เราจะเป็นอีกตัวช่วยในการเอาโปรดักท์ของ Travel Agency มาขายบนออนไลน์”

 แม้ประสบการณ์และขีดความสามารถของทีมจะเป็นที่รับรู้ในแวดวงธุรกิจแขนงนี้ แต่การจะบอกว่า Penguint จะมาขายตั๋วเครื่องบินออนไลน์ท่ามกลางขาใหญ่ที่ทำตลาดกันอยู่แล้วทำให้มีคำถามเกิดขึ้นตามมา

“เราเป็นแอพในการขายตั๋วเครื่องบิน คำถามคือแล้วเราจะแตกต่างจากที่มีอยู่ในตลาดอย่างไร ซึ่งทั้งหมดเป็นรายใหญ่ระดับโลก”

กิตติกร บอกเป็นเพราะมองเห็นช่องว่าง และ ส่วนนี้รายใหญ่ๆ ยังไม่ลงมาเล่น

“ที่ผ่านมา เคยขายตั๋วเครื่องบินให้เพื่อน ก็สงสัยทำไมเพื่อนบางกลุ่มไม่ซื้อออนไลน์ บางคนไม่ต้องการให้เลขบัตรเครดิต และมีคำถามเล็กๆ น้อยๆ ก่อนซื้อตั๋ว

จากที่ศึกษาตลาดตลาดออนไลน์ แน่นอนว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และน่าสนใจ จนเริ่มทำแอพ โดยเน้นไปที่มือถือตั้งแต่วันแรก และใช้ตรงนี้ให้บริการที่เป็น One on One Services ให้กับลูกค้า

 เพราะรายใหญ่เลือกที่จะฟาดฟันกันที่เว็บ เราดูแล้วสู้ราคาไม่ไหวแน่นอนคงสู้ราคากันในเรดโอเชี่ยนของรายใหญ่ไม่ไหว”

การทำงานของ Penguint จะแตกต่างเมื่อเทียบกับรายอื่นๆ ในตลาด คือ ไม่ได้ขายราคาถูกอย่างเดียว แต่ขายเซอร์วิสตั้งแต่ก่อนตัดสินใจซื้อจนถึงการเดินทาง

คำถามก่อนซื้อตั๋ว เช่น โหลดกระเป๋าได้กี่ใบ เอาเด็กไปด้วยจะขอเปลเด็กอย่างไร ในกรณีพระสงฆ์ต้องจองอย่างไร เหล่านี้จะตอบผ่านการแชท ในสองรูปแบบด้วยกันทั้งคุยกับบอท และ พนักงาน

“เป็นการผสมผสาน เราไม่ได้ให้บอทคุย100% เพราะอีกส่วนยังต้องการให้มี Human touch ระหว่างลูกค้ากับทีมงาน

บริการทั้งก่อนและหลังการขายเป็นสิ่งที่คนชอบมาก เพราะไม่ได้ซื้อแค่ตั๋วเครื่องบินแต่ซื้อเซอร์วิสด้วย อย่างเช่น เลื่อนไฟท์ เปลี่ยนไฟท์ อยากเพิ่มอาหาร ตกเครื่องพูดภาษาจีนไม่ได้ และปัญหาอีกมากที่ Penguint ให้บริการ

เรียกว่า จ่ายราคานี้ได้ทั้งของและเซอร์วิส”

Penguint เปิดให้บริการตั้งแต่มกราคม 2560 กิตติกร บอกถึงอัตรการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง โดยมียอดขาย 40 ล้านบาท แม้ว่าจะยังทำการตลาดไม่มาก

ในปีนี้ เฉพาะไตรมาสแรก มียอดขายแล้ว 20 ล้านบาท โดยมีคนเข้าใช้บริการเดือนละ 18,000-20,000 คน โดยมีจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซ้ำราว 40% ต่อเดือน 

“ทุกคนที่มีการจองระบบจะจัดเก็บข้อมูลเพื่อศึกษาพฤติกรรมแล้วนำเสนอเซอร์วิสในครั้งต่อๆ ไป”

สำหรับช่องทางการชำระเงินทำได้หลายช่องทาง ได้แก่ โอนเงินผ่านธนาคาร ติดต่อผ่านไลน์ เมล์ แอพ แจ้งการโอนเงิน , จ่ายผ่านบัตรเครดิต กำลังดีลโปรแกรม0% , ชำระที่เซเว่นอีเลฟเว่น ที่ดีก็คือ จองโดยยังไม่ต้องจ่าย ภายใน 24 ชั่วโมงที่นั่งจะคอนเฟิร์มแน่ๆ ค่อยกลับมาจ่ายในระบบ

ที่ผ่านมานับว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จากนี้ กิตติกร บอกเป็นช่วงเวลาของการขยายตลาด และมองถึงความท้าทายครั้งใหม่นั่นคือ เป้าหมายการเป็น Top 5 Online Travel Agency ในประเทศไทยให้ได้ภายใน 2 ปี

จากนั้นมองไกลถึงการขยายตลาดไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมองไว้ที่ 2-3 ประเทศในสเต็ปต่อไป

การจะเดินไปสู่เป้าหมายนั้นได้ กิตติกร บอกต้องเร่งทำในหลายๆ เรื่อง หนึ่งในนั้นคือ การเปิดตลาดโลว์คอส

“ภายใน 2 เดือนนี้เราจะทำตลาดโลว์คอสต์ ประมาณ 100 โลว์คอสทั่วโลก หมายถึงบิน Domestic ในญี่ปุ่น และอเมริกาได้ด้วย

โดยเป็นการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในยุโรป”

ถึงตอนนี้ Penguint กำลังเร่งการตลาดเพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ เริ่มจากกลุ่มเล็กๆ คนที่มีเงิน แต่ไม่กล้าจองออนไลน์

ตอนนี้ขยายสู่แมสมากขึ้นด้วยการเพิ่มโลว์คอสต์เข้ามา ทำให้โปรดักท์และเซอร์วิสที่นำเสนอไม่ได้มีเฉพาะตั๋วเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประกัน โรงแรม ซื้อทัวร์ ซื้อบัตรรถไฟในญี่ปุ่น บัตรเข้าสวนสนุก นับเปีนอีกบริการที่ลูกค้าจะได้ในแบบ One stop service

ถึงตอนนี้ กิตติกร บอก Penguint เดินมาถูกทางแล้ว

“เรียกว่า เราเพิ่งเจอเส้นทาง วันนี้เราเดินไปเจอหมู่บ้านแล้ว แต่ทำอย่างไรจะออกจากหมู่บ้านไปสู่เมือง ประเทศ และภูมิภาค นั่นเป็นสิ่งที่เร่งทำอยู่ในตอนนี้ โดยเป้าหมายต้องการไปให้ถึง series A,B และสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"

“ความรู้ & บิสิเนส คอนเน็คชั่น”

ด้วยจุดแข็งของทีมที่อยู่ธุรกิจ Travel Technology มา 14 ปี ทำให้สามารถดึงคอนเน็คชั่นในฝั่งซัพพลายเออร์ในตลาดเอเชียแปซิฟิคได้อีกทาง ในขณะที่อีกทาง กิตติกร มองว่า การได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งใน 11ทีมที่ได้รับการคัดเลือกร่วมโครงการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท ปีที่6 ก็ทำให้ได้มุมมองใหม่ในการทำธุรกิจ

"ไม่ใช่ได้ความรู้ แต่ได้เน็ตเวิร์ค โปรแกรมนี้น่าสนใจมาก ไม่เฉพาะในไทยเท่านั้นที่มาให้คำแนะนำ แต่มีคนจากต่างประเทศด้วยทำให้ได้ฟังไอเดียใหม่ๆ รู้จักและสร้างคอนเนคชั่นใหม่ๆ ในต่างประเทศ

ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ Penguint ต้องการขยายฐานตลาดให้กว้างขึ้น"