เร่งตรวจเขื่อนศรีนครินทร์น้ำ87% เขื่อนวชิราลงกรณน้ำ85%ยันแข็งแรง

เร่งตรวจเขื่อนศรีนครินทร์น้ำ87% เขื่อนวชิราลงกรณน้ำ85%ยันแข็งแรง

จับตา 2 เขื่อนสำคัญ เร่งตรวจสอบเขื่อนศรีนครินทร์ หลังน้ำใกล้เต็ม มีความจุที่ 87.09 % ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณ วันนี้อยู่ที่ 85% ด้าน2ผอ.เขื่อนยักษ์ ยังยืนยันมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัย

วันนี้ 8 ส.ค. 61 นายประเสริฐ อินทับ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ (อขศ.)อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ตน ได้มอบหมายให้ นายสุทิน ชูชาติ หัวหน้าแผนกบำรุงรักษาเขื่อนและอาคารโรงไฟฟ้า กองบำรุงรักษาโยธา เขื่อนศรีนครินทร์ เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดเครื่องมือวัดทุกตัวและให้รายงานผลการตรวจวัดทุกวัน จึงได้นำเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ทำการตรวจสอบและตรวจวัด ความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อน

lores_20180808130023582

หลังจากมีปริมาณน้ำไหลเข้ามาในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์อย่างต่อเนื่องทุกวัน ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์มีมากถึง 87.09% โดยได้ทำการตรวจวัดด้วยสายตลอดแนวสันเขื่อนทั้งด้านเหนือน้ำ ท้ายน้ำ และตรวจสอบด้วยเครื่องมือวัด ในอุโมงค์ตรวจสอบใต้ฐานเขื่อน ตัวสันเขื่อนและจุดวัดระดับน้ำใต้ดินด้านท้ายเขื่อน จากการตรวจสอบพบว่าตัวชี้วัดทุกตัวยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีแนวโน้มหรือบ่งชี้ว่ามีสิ่งผิดปกติแต่ประการใด เขื่อนยังมีความแข็งแรง มั่นคง ปลอดภัย

ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบัน (วันที่ 8 สิงหาคม 2561 เวลา 07.00 น.) อยู่ที่ระดับ 174.30 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นปริมาณน้ำ 15,453.63 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 87.09% โดยวันนี้มีแผนการระบายน้ำ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร

และในด้านสถานการณ์น้ำในปัจจุบันที่ประเทศไทยยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงในจังหวัดกาญจนบุรี โดยเมื่อวาน (วันที่ 7 สิงหาคม 2561) มีน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ 41.84 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้ระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำ 21.70 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งตอนนี้ยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีก 2,302.90 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงทำให้มั่นใจได้ว่าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ยังคงสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก โดยไม่เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงและปลอดภัยของตัวเขื่อน รวมไปถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชนด้านท้ายน้ำ

20180808130025279

เขื่อนศรีนครินทร์ ได้มีการออกแบบและก่อสร้างตามมาตรฐานสากล ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามและตรวจสอบเขื่อนเป็นประจำทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุก 3 เดือน ด้วยเครื่องมือตรวจวัดที่ทันสมัย และทุก ๆ 2 ปี จะมีการตรวจสอบประเมินความปลอดภัยเขื่อน ตามมาตรฐานเขื่อนใหญ่โลก (ICOLD) โดยคณะกรรมการตรวจประเมินความปลอดภัยของเขื่อน

และสืบเนื่องจากสถานการณ์น้ำในช่วงนี้ที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงได้เพิ่มการตรวจสอบเขื่อนให้มีความถี่มากขึ้นกว่าเดิม เช่น การตรวจอัตราการซึมของน้ำผ่านตัวเขื่อน การตรวจวัดระดับน้ำในหลุมวัดน้ำ เดิมตรวจสอบสัปดาห์ละครั้ง เป็นตรวจสอบทุกวัน ส่วนการตรวจสอบ การทรุดตัวและเคลื่อนตัวของเขื่อน จากเดิมไตรมาสละครั้ง เป็นเดือนละครั้ง จึงขอให้ประชาชน มีความมั่นใจ ในความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนศรีนครินทร์

ด้านนายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ (อขว.) อ.ทองผาภูมิ เปิดเผยว่า สำหรับอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ มีความจุ 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร สูงที่ระดับ 155 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง(ม.รทก.) โดยข้อมูล ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2561 เวลา 7.00 น. มีปริมาณน้ำในเขื่อน 7,522 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 85% ของความจุ

ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมีมติให้เร่งพร่องน้ำออกไป เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝน ในช่วงเดือน สิงหาคม และ กันยายน นี้ จึงมีมติปรับแผนการระบายน้ำ ระหว่างวันที่ 6-12 สิงหาคม โดยระบายน้ำเฉลี่ย 43 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

20180808130025458

ซึ่งสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,338 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยมีการบริหารจัดการน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้

ทั้งนี้ กฟผ.เขื่อนวชิราลงกรณ มีการรายงานแผนการระบายน้ำ ให้หน่วยงานราชการในจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี ทราบเป็นประจำทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ หากมีข้อสงสัย หรือได้รับข่าวต่างๆ ที่ผิดปกติ โปรดสอบถามข้อเท็จจริงโดยตรง ที่ กฟผ.เขื่อนวชิราลงกรณ หมายเลข 02-4368739 หรือ 034-599077 ต่อ 3110 , 3111 และติดตามเหตุการณ์ทางกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมงที่ http://www.vrk.egat.com หรือ Application EGAT Water

ด้านความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน เขื่อนวชิราลงกรณ มีการออกแบบและก่อสร้างตามมาตรฐานสากลโดยมีหน่วยงานด้านบำรุงรักษาเขื่อนฯ ทำการตรวจสอบเขื่อน เป็นประจำทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกปี และโดยคณะกรรมการตรวจประเมินความปลอดภัยเขื่อนฯ ทุกๆ 2 ปี หรือ

เมื่อมีเหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบกับตัวเขื่อน เช่น ฝนตกหนัก ระดับน้ำในเขื่อนมากกว่า 80% หรือ มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเขื่อนด้วยเครื่องมือวัดที่ติดตั้งไว้ภายในตัวเขื่อนและบริเวณใกล้เคียงทันที เพื่อรายงานและวิเคราะห์ผลทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น จึงขอให้ประชาชน มีความมั่นใจ ในความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำแควใหญ่ และแควน้อย รวมทั้งแม่น้ำแม่กลอง ในวันนี้ ยังทรงตัว ส่วนบริเวณท่าน้ำปากแซง หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค ได้ลดปริมาณลงแล้ว แต่ทุกพื้นที่ที่น้ำเอ่อล้นตลิ่งขึ้นท่วม จะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะเขื่อนวชิราลงกรณ จำเป็นต้องพร้องน้ำออกจากเขื่อนวันละ 43 ล้าน ลบ.ม./วัน ไปจนถึงวันที่ 12 ส.ค.