'สาธิต กรีกุล' ผู้ประกาศข่าวกีฬาคว้ารางวัลใช้ภาษาไทยดีเด่น

'สาธิต กรีกุล' ผู้ประกาศข่าวกีฬาคว้ารางวัลใช้ภาษาไทยดีเด่น

วธ.จัดงาน “วันภาษาไทยแห่งชาติ ปี 61” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้านภาษาและวรรณกรรม รัชกาลที่ 9 “สาธิต กรีกุล” ผู้ประกาศข่าวกีฬาคว้ารางวัลใช้ภาษาไทยดีเด่น เผยสถานทูต 13 ประเทศ ร่วมทำคลิปรณรงค์การใช้ภาษาไทย

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานแถลงข่าวกิจกรรมเนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี 2561 โดยมีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และผู้แทนหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม

นายวีระ กล่าวว่า วธ. ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดกิจกรรมเนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ 29 กรกฎาคม ประจำปี 2561 โดยปีนี้จัดกิจกรรมวันที่ 25 กรกฎาคม ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเป็นนักปราชญ์และนักภาษาไทย และเพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านภาษาและวรรณกรรม ซึ่งพระองค์ได้ทรงร่วมอภิปรายปัญหาการใช้ภาษาไทย ในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2505 และต่อมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปีเป็น “วันภาษาไทยแห่งชาติ”รวมทั้งเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ ความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของชาติด้านภาษาและวรรณกรรม รวมถึงส่งเสริมการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชน

นายวีระ กล่าวอีกว่า เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี 2561 วธ. โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) และกรมศิลปากร (ศก.) ได้คัดเลือกบุคคลและองค์กร เพื่อรับเข็ม โล่เชิดชูเกียรติและรับมอบรางวัล ในวันที่ 25 กรกฎาคม ดังนี้ ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย 2 คน ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น 9 คน ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น 7 คน และผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทยประเภทบุคคล 1 คน และประเภทองค์กร 2 องค์กร ส่วนศิลปิน ผู้ได้รับรางวัลเพชรในเพลง 23 รางวัล

สำหรับ รายชื่อผู้ได้รับรางวัล มีดังนี้ รางวัลปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย 2 คน ได้แก่ 1.รศ.ประจักษ์ สายแสง และ 2.ศ.วิภา กงกะนันทน์ รางวัลผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น รวม 9 คน ประกอบด้วย นักวิชาการ นักเขียน และสื่อมวลชน 5 คน และชาวต่างชาติ 4 คน ได้แก่ 1.นายกรกันต์ สุทธิโกเศศ 2.ผศ.พิสิทธิ์ กอบบุญ 3.นายสาธิต กรีกุล 4.นายเสน่ห์ วงษ์กำแหง 5.น.ส.อำไพ สังข์สุข 6.นายคะซุฮิโกะ บันโนะ 7. นายอดัม แบรดชอว์ 8.นายฮาราลด์ ลิงค์ และ9.นายทูกสบิลกุน ทู เมอคุเล็ก

รางวัลผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น 7 คน ได้แก่ 1.นายจุมพล ทองตัน 2.นายชูชาติ ใจแก้ว 3.นายบุญทิพย์ สุริยะจันทร์ 4.ร.ต.ต.ปรีชา สุขจันทร์ 5.นายศักดิ์นรินทร์ ชาวงิ้ว 6.นายสมจิต ทองบ่อ และ7.นายสุนทร คำยอด สำหรับรางวัลผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย ประเภทบุคคล 1 คน ได้แก่ พระเทพสุธรรมญาน (แฉล้ม เขมปญฺโญ) และประเภทองค์กร 2 องค์กร ได้แก่ 1.สถาบันปัญญ์สุข 2.ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช พิพิธภัณฑ์ไทยพวนบ้านทราย จ.ลพบุรี

นอกจากนี้ รางวัลการประกวดเพชรในเพลง 23 รางวัล ได้แก่ 1.รางวัลการขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทยประเภทผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงรอปฏิหาริย์ ผู้ขับร้อง นายปองศักดิ์ รัตนพงษ์ (อ๊อฟ ปองศักดิ์) ประเภทผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงลบนาทีที่มีเธอ ผู้ขับร้อง นางสาวนภัสสร ภูธรใจ (นิว) และนางสาวปิยนุช เสือจงพรู (จิ๋ว) ประเภทผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงบุญผลา ผู้ขับร้องนายพรภิรมย์ พินทะปะกัง (ไมค์ ภิรมย์พร) และประเภทผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงทองดำ ผู้ขับร้อง น.ส.พลอยชมพู ลอมเศรษฐี (ปะแป้ง พลอยชมพู)

2.รางวัลการประพันธ์เพลงดีเด่นด้านภาษาไทย ประเภทการประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงวันสุดท้ายของพ่อ ผู้ประพันธ์ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ประเภทการประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เพลงใจเต็มดวง ผู้ประพันธ์ นายสุทธิพงษ์ สมบัติจินดา

3.รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษผู้มีคุณูปการต่อวงการเพลง ได้แก่ นายบูรพา อารัมภีร 4.รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษครูเพลงผู้ประพันธ์เพลงอมตะ ได้แก่ ศ.เกียรติคุณนายแพทย์วราวุธ สุมาวงศ์ (ครูวราห์ วรเวช) 5.รางวัลเชิดชูเกียรติผู้ประพันธ์เพลงดีเด่นในอดีต ได้แก่ นางสุคนธ์ พรพิรุณ (ครูพรพิรุณ) และ6.รางวัลเชิดชูเกียรติผู้ขับร้องเพลงอมตะ ได้แก่ นางดวงจันทร์ ไพโรจน์ (วงจันทร์ ไพโรจน์) นอกจากนี้ มีการจัดนิทรรศการปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น ผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทยและเยาวชนผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นที่มีความสามารถด้านการอ่าน การเขียน การพูด พุทธศักราช 2561 และนิทรรศการรางวัลเพชรในเพลง

นายวีระ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เป็นปีที่สองที่วธ.ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังสถานทูตประจำประเทศไทย โดยเชิญชวนเอกอัครราชทูต และผู้แทนสถานทูตแต่ละประเทศถ่ายคลิปวีดีโอรณรงค์การใช้ภาษาไทย ซึ่งปีนี้มีสถานทูต 13 ประเทศร่วมกิจกรรม ได้แก่ มองโกเลีย มาเลเซียมอลตา เบลเยียม สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เกาหลี ญี่ปุ่น คาซัคสถาน จีนปานามา โปแลนด์ญี่ปุ่น และอาร์เจนตินา เพื่อเผยแพร่และส่งเสริมการใช้ภาษาไทย ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่สำคัญเสริมสร้างความสัมพันธ์เกียรติภูมิและภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อนำความเป็นไทยสู่สากล และจะมอบเกียรติบัตรให้แก่สถานทูตที่ร่วมกิจกรรมด้วย

นอกจากนี้ มีการจัดงานสัปดาห์วันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 20 – 31 กรกฎาคม 2561 ในส่วนกลางและภูมิภาค ได้แก่ ส่วนกลางวันที่ 25 กรกฎาคม เสวนาทางวิชาการ “เพลงพื้นบ้านในฐานะมรดกภูมิปัญญาทางภาษา” ณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน) วันที่ 31 กรกฎาคม สัมมนาทางวิชาการ “พลังของภาษา ปัญญาสังคมไทย” ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 9 อาคารมหาจักรีสิรินธร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะที่ส่วนภูมิภาคมีกิจกรรม ได้แก่ วันที่ 23 กรกฎาคม ประกวดคัดลายมือ และวันที่ 24 กรกฎาคม แข่งขันเล่านิทานพื้นบ้านภาคเหนือ ณ ห้องสมุดวิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่การประกวดทักษะภาษาไทย ได้แก่ ประกวดเขียนเรียงความ ประกวดคัดลายมือและประกวดแต่งกลอนสุภาพที่วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโกสุราษฎร์ จ.สุราษฎร์ธานี

และวันที่ 25 กรกฎาคม การอ่านทำนองเสนาะ การแสดงละครวรรณคดี การแข่งขันสะกดคำ ประกวดสุนทรพจน์ การเสวนาเกี่ยวกับภาษาไทยและภาษาถิ่น นิทรรศการภาษาไทย ตอบปัญหาภาษาไทย เป็นต้น ณ วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.เพชรบุรี โรงเรียนวัดคูยาง จ.กำแพงเพชร และโรงเรียนอนุบาลศรีวัฒนาวิทยา จ.สระแก้ว และวันที่ 27 กรกฎาคม ประกวดเรียงความที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ อีกทั้งมีการประกวดสุนทรพจน์ภาษาถิ่นอีสานหัวข้อ “ภูมิปัญญาอีสานกับการลดภาวะโลกร้อน” ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และประกวดสุนทรพจน์ภาษาถิ่นใต้: อัตลักษณ์และความหลากหลายทางวัฒนธรรม ณ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ในเดือนก.ค. นอกจากนี้กรมศิลปากรจัดพิมพ์หนังสือหายาก ได้แก่ โคลงโลกนิติจำแลง พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และโคลงนิติของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศร แจกในวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยด้วย