ราคาน้ำมันดิบร่วงหลังลิเบียส่งออกน้ำมันอีกครั้ง

ราคาน้ำมันดิบร่วงหลังลิเบียส่งออกน้ำมันอีกครั้ง

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (12ก.ค.) ดิ่งลง 5 เซนต์ หลังมีข่าวว่าลิเบียกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 5 เซนต์ ปิดตลาดที่ราคา 70.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดตลาดที่ 74.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักวิเคราะห์ ระบุว่า ปัจจัยฉุดราคาน้ำมันในวันนี้มาจากข่าวที่ว่า บรรษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียเปิดเผยว่ามีการเปิดสถานีส่งออกน้ำมัน 4 แห่ง หลังจากที่ได้ถูกปิดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้มีการส่งออกน้ำมันราว 850,000 บาร์เรล/วันเข้าสู่ตลาด

รายงานจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุว่า ซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2559 เพื่อสกัดราคาน้ำมันดิบที่ได้พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง

ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันราว 10.5 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับราว 10 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค.

ส่วนกลุ่มประเทศโอเปกผลิตน้ำมันราว 32.2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 173,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.

ขณะเดียวกัน โอเปกคาดว่าการผลิตน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า นำโดยการผลิตน้ำมันจากสหรัฐ

สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ออกรายงานระบุว่า การที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันทำการเพิ่มการผลิตเพื่อให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง อาจส่งผลให้กำลังการผลิตส่วนเกินในตลาดลดน้อยลง

“การผลิตน้ำมันที่ยังประสบภาวะชะงักงันในหลายประเทศ ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงแรงกดดันต่อปริมาณน้ำมันในตลาดโลก และหากมีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นจากตะวันออกกลางและรัสเซีย ก็จะส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตส่วนเกินในตลาด” รายงานของไออีเอ ระบุ