"แซมบา"จัดเต็มฟัด"เบลเยียม"

     การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซีย ประจำวันที่ 6 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้ายซึ่งมีลงเตะด้วยกันทั้งหมด 2 คู่ โดยไฮไลท์อยู่ที่การพบกันของ บราซิล กับ เบลเยียม ที่สนามคาซาน อารีนา เมืองคาซาน เวลา 01.00 น.

วาง“เนย์มาร์”คลำเป้า
     บราซิล ภายใต้การคุมทีมของ ติเต ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในศึกฟุตบอลโลก 2018 หลังผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 1994 หลังเอาชนะ เม็กซิโก ได้ 2-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย พร้อม๊โอกาสูงในการที่จะคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ในประวัติศาสตร์หลังบรรดาทีมเต็งอื่นๆ เช่น อาร์เจนตินา, สเปน และโปรตุเกส ต่างตบเท้าตกรอบไปก่อนหน้านี้
     ส่วนความพร้อมเกมนี้พวกเขาต้องลุ้นความฟิตของ ดักลาส คอสตา ปีกตัวเก่งว่าจะสามารถกลับมาลงสนามในเกมนี้ได้หรือไม่ หลังเจ็บไปตั้งแต่เกมกับ คอสตาริกา 2-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ข่าวดีคือจะได้ มาร์เซโล แบ็กซ้ายตัวหลักคืนสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังฟิตเต็มถังเป็นที่เรียบร้อย
ถึงกระนั้น “เซเลเซา” จะไม่มี คาเซมิโร กองกลางตัวตัดเกมที่ติดโทษแบนในเกมนี้ หลังสะสมใบเหลืองครบโควตา ทำให้ แฟร์นันดินโญ จะลงมาประจำตำแหน่งดังกล่าวแทน
     การจัดทัพ มาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูใช้ อลิสสัน เบ็กเกอร์ แนวรับประกอบด้วย ติอาโก ซิลวา ยืนคู่ เจา มิรันดา แบ็กขวา-ซ้าย ฟากเนอร์ และมาร์เซโล ประจำการ กองกลางตัวรับ 2 คนเป็น แฟร์นันดินโญ ยืนคู่ เปาลินโญ 3 ประสานเกมรุก วิลเลียน ประสานงานกับ ฟิลิปเป คูตินโญ และเนย์มาร์ ที่ยิงในฟุตบอลโลกไปแล้ว 2 ลูก สนับสนุน กาเบรียล เฆซุส ในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า

“เบลเยียม”หวังพลิกเข้ารอบ
     เบลเยียม ของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายแบบหืดจับ หลังพลิกกลับมาแซงเอาชนะ ญี่ปุ่น ได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 3-2 ส่วนรอบแบ่งกลุ่มสามารถเก็บ 9 แต้มแต็มจาก 3 เกมพร้อมเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มจี
     เกมนี้ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ไม่มีปัญหานักเตะ บาดเจ็บ หรือติดโทษแบน ทำให้สามารถส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามในระบบ 4-3-3 โดย ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยืนเฝ้าเสา เกมรับใช้ โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, แว็งซองต์ กอมปานี, แยน แฟร์ทองเกน กองกลางมี เควิน เดอ บรอยน์ และอักเซล วิตเซล ขนาบข้างด้วย โธมัส มูนิเยร์ และ นาเซอร์ ชาดลี ที่โชว์ฟอร์มได้ดีในเกมที่แล้ว จะลงสนามเป็นตัวจริงแทน ยานนิค การ์รัสโก ส่วนกองหน้า 3 คนใช้ ดรีส เมอร์เทนส์, เอแดน อาซาร์ และโรเมลู ลูกากู ที่ซัดไปแล้ว 4ประตูในทัวร์นาเมนต์นี้