ผบ.ตร.สั่งสอบ 'กู้รวมหนี้' ปม191ตร.โวยอดีตผู้การฯโกง229ล้าน

ผบ.ตร.สั่งสอบ 'กู้รวมหนี้' ปม191ตร.โวยอดีตผู้การฯโกง229ล้าน

"จักรทิพย์" สั่งสอบปมฉาว "สหกรณ์ฯกู้รวมหนี้" หลังตำรวจเลย191ราย โวย "อดีตผู้การฯ" โกง 229 ล้าน ยังคงเป็นหนี้อยู่และได้รับความเดือดร้อน

จากกรณีกลุ่มข้าราชการตำรวจสังกัดภ.จว.เลย จำนวน 191 นาย เข้าร้องเรียนกรณีเกิดการทุจริตโครงการ “กู้รวมหนี้” ของสหกรณ์ออมทรัพย์ภ.จว.เลย มูลค่ากว่า 229 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เมื่อปีงบประมาณ 2560 ช่วง ม.ค.- ก.ค.2560 ว่ามีข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.จว. เลย จำนวน 191 นาย ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ได้เข้าร่วมโครงการ “บริหารหนี้” ของอดีตผู้บังคับการจังหวัดเลย รายหนึ่งในขณะนั้น โดยมีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ฯ ให้มีการบริหารจัดการหนี้สินที่มีอยู่กับสหกรณ์ฯ จำนวนไม่เกิน 4,000,000 บาท ให้หมดไปโดยเร็ว ถ้าไม่หมดก็ให้ทุเลาเบาบางลง แต่ต่อมาทางผู้บริหารโครงการไม่ได้ทำตามข้อตกลง ทำให้ข้าราชการตำรวจที่มาร้องเรียนยังคงเป็นหนี้อยู่ และได้รับความเดือดร้อน

ในกรณีดังกล่าวนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค4 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มข้าราชการตำรวจทั้ง 191 เอาไว้แล้ว ซึ่งจะทำการตรวจสอบ โดยการตั้งกรรมการขึ้นมา 1 ชุด และใช้เวลาการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ขณะนี้จะต้องรอความชัดเจนจากผลการตรวจสอบก่อน แม้ว่าผู้ถูกร้องเรียนจะเป็นข้าราชการตำรวจระดับสูง ก็จะดำเนินการอย่างจริงจัง เพราะถือว่าเป็นความเดือดร้อนของข้าราชการตำรวจจำนวนมาก

“เรื่องนี้ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน หากตรวจสอบพบว่า เป็นการกระทำผิด ก็จะดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งทางผิดอาญาและทางวินัย อีกทั้งต้องตรวจสอบด้วยว่า เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ หรือถ้าเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับบุคคลในหลายภาคส่วน ก็จะประสาน ปปง. และ ปปช. เข้ามาตรวจสอบร่วมกัน ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ถือเป็นข้อผูกพันกันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่อย่างใด” รอง โฆษก ตร. กล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวด้วยว่า เรื่องดังกล่าวได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้กำชับให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว ถูกต้องตามระเบียบ และขั้นตอนของกฎหมาย ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รายงานขึ้นมาก่อน ซึ่งคณะทำงานมีอิสระในการดำเนินการ หากพบเป็นความผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ ทั้งทางวินัยและอาญา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเป็นธรรมให้กับข้าราชการตำรวจทุกฝ่าย ทั้งนี้จะเร่งรัดการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อความชัดเจนและสามารถตอบคำถามของสังคมได้ต่อไป