ส่องสตาร์ทอัพเอเชียตะวันออก

เมื่อสามสี่วันก่อน รัฐบาลไทยประกาศขับเคลื่อนเอสเอ็มอีสู่ยุค 4.0 เดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้เกิดความยั่งยืน ไม่ใช่แค่แก้ไขกฎหมายแต่เป็นการแก้ไขการทำงานของภาครัฐให้รองรับการทำงานของภาคเอกชนได้มากขึ้น ด้วยการจัดทำนโยบาย 4.0 ที่ใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลเข้ามามีส่วนร่วม พร้อมทั้งตั้งเป้าแข่งกับสิงคโปร์ ยกระดับไทยเป็นฮับสตาร์ทอัพเอสเอ็มอีแห่งอาเซียน

นั่นคือ “ความตั้งใจ” ทีนี้มาดูข้อเท็จจริงจากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกว่า ผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพมากน้อยแค่ไหน เพื่อประเมินภาพของการแข่งขันได้ถูกต้อง เริ่มจากกรุงปักกิ่งของจีนที่มีสตาร์ทอัพ 7,000 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น คือมีรายได้กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ 40 แห่ง เซี่ยงไฮ้มี 2,000-3,000 แห่ง มีโรงบ่มเพาะ สตาร์ทอัพอีก 500 แห่ง ฮ่องกงมีกว่า 2,000 แห่ง

ส่วน ฟูกุโอกะ ประกาศตัวเป็น “ฮับ” สตาร์ทอัพ พร้อมเสนอแรงจูงใจแก่ชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้วยการเปิดฟรีวีซ่านาน 6 เดือน และปล่อยสินเชื่อแก่บริษัทต่างๆไปแล้วกว่า 2 แสนดอลลาร์ และเกาหลีใต้ มีสตาร์ทอัพ 3,500 แห่ง มีโรงบ่มเพาะสตาร์ทอัพประมาณ
100 แห่ง พร้อมมาตรการจูงใจต่างๆมากมาย

ข้อมูลและกราฟฟิกระบบนิเวศน์สตาร์ทอัพในสิงคโปร์ที่นำเสนอในบิ๊กดาต้าชิ้นนี้น่าจะช่วยให้ภาพที่ชัดเจนมากขึ้นแก่รัฐบาลว่าพิกัดของไทยอยู่ตรงไหนในสนามแข่งขัน