เส้นทางรวย 'สันธนะ' ฝ่าวิบากถอดยศ-ให้ปปง.สอบเส้นทางเงิน

เส้นทางรวย 'สันธนะ' ฝ่าวิบากถอดยศ-ให้ปปง.สอบเส้นทางเงิน

เจาะเส้นทางรวย "พ.ต.ท.สันธนะ" ฝ่ามรสุมวิบากถอดยศ-ให้ปปง.สอบเส้นทางเงิน ลั่น "พร้อมจะอยู่สู้ไม่หลบหนี"

สัมภาษณ์พิเศษ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาบริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด อดีตรองผู้กำกับการ สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ ผู้ค้าตลาดใหม่ดอนเมือง เปิดใจกับ “เนชั่น ทีวี” ในทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่รับราชการ กระทั่งต้องเผชิญหน้ากับคดีความ ที่ลุกลามไปถึง พ่อวัย 91 ปี รวมถึงเรื่องลูกชาย และความรู้สึก เมื่อทราบถึงการเตรียมถอดยศ

ชีวิตเริ่มต้น สมัยรับราชการตำรวจ พ.ต.อ.สันธนะ เล่าว่า เป็นช่วงชีวิตที่ผมสนุกกับหน้าที่การงาน จากความตั้งใจในงานสังคม การดูแลประชาชน และด้วยความมักคุ้นกับเมืองหลวง ที่ตนเกิดและเติบโตในกรุงเทพมหานคร จึงเข้าใจในสภาพสังคมที่มองเห็นช่องทางของการทำธุรกิจด้วย จึงให้ความสนใจควบคู่ไปกับการรับราชการด้วย ซึ่งผมยังมีโอกาสพบปะกับกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่หลากหลาย ซึมซับความรู้ ประสบการณ์ไว้

เส้นทางรวย \'สันธนะ\' ฝ่าวิบากถอดยศ-ให้ปปง.สอบเส้นทางเงิน

โลกมีความเปลี่ยนแปลงตลอด และตนเป็นคนชอบเรียนรู้ ทำให้ในช่วง 10 ปี ผมทำหน้าที่ได้สารพัด จากยุค 2499 หน่วยงานยังขาดแคลนบุคลากร ครั้งเมื่อเป็นสารวัตร ตรวจคนเข้าเมือง ที่สนามบินดอนเมืองหรือช่วงนั้นเรียกกันว่า ท่าอากาศกรุงเทพฯ มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ ได้มองเห็นความเจริญของแต่ละประเทศ ได้ศึกษาเรียนรู้ ก็อยากให้ประเทศไทย เมื่อ 40 ปีที่แล้วได้มีความเจริญทัดเทียมกัน และความคิดแบบนี้เป็นความตั้งใจ

ผมไม่ใช่นักการเมือง แต่อย่างน้อยในช่วงชีวิตเรา ก็น่าจะมีส่วนให้ประเทศเจริญก้าวหน้า แต่ทุกวันนี้ กรุงเทพมีความเจริญด้านวัตถุไม่น้อยหน้าประเทศใดๆ ในโลก แต่กลับกลายว่า สภาวะจิตใจ โดยเฉพาะอาชีพเดิมกลับขาดสำนึก ความรับผิดชอบประชาชน หรือสังคมเหมือนในยุคอดีต พบการแต่งเครื่องแบบเพื่อแสวงประโยชน์ กลายเป็นอาชีพที่สามารถสร้างฐานะให้ตัวเอง แทนที่จะไปประกอบอาชีพธุรกิจ ซึ่งเป็นอาชีพที่หวังกำไรโดยตรง

ขณะนี้ตำรวจแทบจะลืมไปแล้วว่าการเข้ามาที่ตลาดใหม่ดอนเมือง มาจากคดีผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่คดีกลับกลายมาเป็นความวุ่นวายกับตัวเองและสถานการณ์ค่อยเพิ่มระดับการดำเนินคดีที่มีตนเป็นเป้าหมายก็ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ ในชีวิตเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในชีวิตรับราชการที่มักโดนเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันใส่ร้าย ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นผู้ก่อเหตุเลยซักคดี เช่นเดียวกับคดีกรรโชกทรัพย์ ที่กลับไม่มีผู้กล่าวหา

เส้นทางรวย \'สันธนะ\' ฝ่าวิบากถอดยศ-ให้ปปง.สอบเส้นทางเงิน

คดีความที่เกิดขึ้นตลาดใหม่ดอนเมือง ก็เป็นการกระทำผิดเรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ซึ่งต้องยอมรับว่า เป็นการกระทำผิดกฎหมาย แต่มันไม่ใช่โรงงานผลิตสารระเบิด ไม่ได้มีรายละเอียดการกระทำที่รุนแรง แต่การปฏิบัติงานของตำรวจในแหล่งจำหน่ายที่อื่นๆ เหตุใดจึงต่างจากตลาดใหม่ดอนเมือง และดูเหมือนมีความพยายามด้วยเหตุผลที่มีเป้าหมายอื่นๆ แอบแฝง ไม่จบแค่การกระทำความผิดในพื้นที่ กลับพุ่งเป้ามาที่ตน

ส่วนหนึ่งของการกล่าวหา มีการโจมตีว่าตนฐานะนั้น พ.ต.ท.สันธนะ ชี้ว่า ตนร่ำรวยมาจากธุรกิจ จากความสนใจในเรื่องของเทคโนโลยีและการทำธุรกิจ อยู่แล้ว พอรับราชการมาพัก หนึ่ง ก็มองว่าการทำธุรกิจเป็นสิ่งที่เหมาะกับตนมากกว่า จึงได้เลือกออกมาทำธุรกิจ และธุรกิจที่ทำให้เขามีวันนี้ได้ ก็คือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับบ่อนกาสิโนในต่างประเทศ หลายๆ ประเทศที่มีกาสิโนใหญ่ตั้งอยู่

ส่วนคดีที่บิดากำลังถูกออกหมายเรียก ถือว่า เป็นเรื่องไร้มนุษยธรรม ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายซึ่งในฐานความผิดให้ที่พักพิง เป็นความต้องการเอาผิดกับผู้ที่ให้ที่พักกับโจรผู้ร้ายที่หลบหนีคดี ไม่ใช่ดำเนินคดีกับพ่อให้ที่พักพิงลูก ภรรยาให้ที่พักพิงสามี และทางคุณพ่อเอง ก็ไม่ได้ทราบคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งนี้ เรื่องคดีคุณพ่อได้มอบให้ทางฝ่ายกฎหมายดูแล ส่วนตัวพยายามไม่เข้าไปเกี่ยวข้องมาก

ขณะที่เรื่องของลูกชายที่มีการปีนออกจากบ้านระหว่างถูกตำรวจปิดล้อมบ้านพัก พล.ต.อ.สันธนะ กล่าวว่า ในวันนั้น เกิดเรื่องขึ้นมาก็มาจากความคิดเห็นของลูกชาย เป็นปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างพ่อลูก เพราะความเป็นตัวเอง แต่จากที่เขาไม่มีประสบการณ์ ห่วงเรียน จึงอยากออกจากบ้าน ตนก็พยายามห้ามและร้องขอเรื่องในวันนั้นสงบเสียก่อน ผมเองก็ไม่รู้ว่าเข้าจะปีนออกไป มารู้อีกทีคือคนที่บ้านตะโกนบอกว่าเขาปีนออกไปแล้ว

ส่วนการถอดยศ พล.ต.อ.สันธนะ กล่าวว่า ตนรับราชการตำรวจ 20 ปี บางคนอาจทราบว่า เงินเดือนผมได้มอบให้มูลนิธิตำรวจทั้งหมด นี่ไม่ใช่การอวดรวย แต่มาจากความรู้สึกที่อยากเสียสละ แต่สิ่งหนึ่งที่ไตร่ตรองมาก่อนหน้านี้ คือ ตัวเองเหมาะกับงานธุรกิจ เมื่อถึงวันหนึ่งมีการเชิญให้ตนออกจากราชการ ก็เต็มใจ แต่เรื่องยศนั้น ถ้ามีระเบียบที่ทำได้ก็คงเป็นไปตามนั้น แต่ผมคิดว่า สิ่งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจ เป็นของสูง จึงขอไม่ตอบอะไร

ทั้งนี้ ตนขอยืนหยัดสู้คนเดียว หากมีปัญหาอะไรก็พร้อมจะอยู่สู้ ไม่หลบหนี ถ้าเจ้าหน้าที่อยากทำหรือดำเนินคดีอะไรก็ให้มาที่ตนเอง อย่าไปดึงคนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย