'ประยุทธ์-ประวิตร' ไม่สั่งอะไรพิเศษ สมช.เกาะติดสหรัฐบอมบ์ซีเรีย

'ประยุทธ์-ประวิตร' ไม่สั่งอะไรพิเศษ สมช.เกาะติดสหรัฐบอมบ์ซีเรีย

สถานการณ์สหรัฐบอมบ์ซีเรีย ด้าน "ประยุทธ์-ประวิตร" ไม่สั่งการอะไรพิเศษ ให้ฝ่ายความมั่นคงเกาะติดใกล้ชิด ลั่นไทยไม่เห็นด้วยเรื่องความรุนแรง และโลกไม่หนุนใช้อาวุธเคมี

พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึง สถานการณ์ความตรึงเครียดหลังกองทัพของสหรัฐอเมริกาปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อประเทศซีเรียว่า ฝ่ายความมั่นคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ

\'ประยุทธ์-ประวิตร\' ไม่สั่งอะไรพิเศษ สมช.เกาะติดสหรัฐบอมบ์ซีเรีย

ส่วนการโจมตีของสหรัฐฯ ความสูญเสียของประชาชนจะน้อย เพราะสหรัฐฯ มุ่งโจมตีสถานีผลิตศูนย์วิจัยอาวุธเคมี เชื่อว่าไม่มีการขยายวงกว้าง เพราะเป็นการป้องกันไม่ให้กระทบประชาชน ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เป็นเรื่องที่หน่วยงานด้านความมั่นคงต้องติดตามอยู่แล้ว ส่วนผลกระทบในภาพรวมแน่นอน ทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก เพราะประเทศมหาอำนาจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ด้านเศรษฐกิจก็ต้องมีผลกระทบบ้าง เพราะประเทศซีเรียก็ถือว่าเป็นประเทศผลิตน้ำมันรายใหญ่ ตลาดหุ้นคงมีตกใจบ้าง

เมื่อถามว่า มีความจำเป็นที่ฝ่ายความมั่นคงของประเทศ ต้องเรียกประชุมอะไรเป็นพิเศษเพื่อเตรียมความพร้อมหรือไม่ พล.อ.วัลลภ กล่าวว่า ต้องประเมินสถานกาณ์ต่อไป ดูความตรึงเครียดเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ และไทยในฐานะประเทศสมาชิกสหประชาชาติ (ยูเอ็น) การดำเนินการต่างๆ จะยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เห็นด้วยที่จะให้เกิดความรุนแรง อยากให้ทั้งสองฝ่ายอดทนอดกลั้น สำหรับสถานการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ถ้ามองแง่ดีไม่น่าจะมีเหตุรุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นไม่อยากให้ประชาชนวิตกจนมากเกินไป อย่างไรขอให้ติดตามสถานการณ์ ส่วนแรงงานไทยตอนนี้จะมีในอิสราเอลอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง คิดว่ากระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตที่นั้นคอยดูแลอยู่แล้ว

\'ประยุทธ์-ประวิตร\' ไม่สั่งอะไรพิเศษ สมช.เกาะติดสหรัฐบอมบ์ซีเรีย

พล.อ.วัลลภ กล่าวอีกว่า การใช้อาวุธเคมีเป็นเรื่องที่หลายประเทศไม่เห็นด้วยตามหลักกฎหมายสากลระหว่างประเทศ เนื่องจากอานุภาพการนำมาใช้โจมตีดังกล่าวเป็นการทำลายชีวิตและสร้างความสูญเสีย ทั้งนี้ ไทยไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียและอยากให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทน อดกลั้น ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามคำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. แต่ขณะนี้นายกฯ ยังไม่มีคำสั่งใดๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลมากยิ่งขึ้น อาจมีการประชุมองค์ของยูเอ็น ซึ่งสามารถเรียกประชุมฉุกเฉินได้หรือหากมีชาติสมาชิกร้องขอ