ราคาทองฟิวเจอร์ปิดตลาดปรับตัวลง

ราคาทองฟิวเจอร์ปิดตลาดปรับตัวลง

เหตุนักลงทุนหันเข้าตลาดหุ้น หลังดีดตัวขานรับจ้างงานแกร่ง

ราคาทองฟิวเจอร์ปิดตลาดวันจันทร์ (12มี.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนหันเข้าสู่ตลาดหุ้น ซึ่งดีดตัวขึ้นขานรับตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่ไม่ส่งสัญญาณเงินเฟ้อ ทำให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.2%  ปิดที่ราคา 1,320.80 ดอลลาร์/ออนซ์

นักวิเคราะห์ระบุว่า ดัชนีดาวโจนส์ที่พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อวันศุกร์ ทำให้ตลาดหุ้นมีความน่าสนใจในการเข้าลงทุนมากกว่าตลาดทอง 

เมื่อวันศุกร์ สหรัฐเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นเกินคาด แต่ค่าจ้างปรับขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ทำให้ไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.พ.เป็นตัวเลขสมบูรณ์แบบที่ดีที่สุดสำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.พ. โดยพุ่งขึ้น 313,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นเพียง 4 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.15% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% สู่ระดับ 26.75 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี โดยต่ำกว่าระดับ 2.9% ในเดือนม.ค.

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงาน 313,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ถือเป็นจุดหักเหของเศรษฐกิจ ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทต่างๆมีการจ้างงานมากพอที่จะช่วยนำคนว่างงานในระยะยาวเข้าสู่ตลาดแรงงาน

นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของค่าจ้างที่ระดับ 0.15% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ ก็ได้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น หลังจากที่การทะยานขึ้นของค่าจ้างในเดือนม.ค.ได้ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดีดตัวขึ้น และฉุดให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลง

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค. ขณะที่ซีเอ็มอี กรุ๊ป ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือเฟดวอทช์ วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.