3ผู้ช่วยอัจฉริยะ เปลี่ยนโลก-สร้างธุรกิจใหม่

3ผู้ช่วยอัจฉริยะ  เปลี่ยนโลก-สร้างธุรกิจใหม่

“เอไอ-หุ่นยนต์-บิ๊กดาต้า” 3 เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่เข้าใกล้มนุษย์เรื่อยๆ เวทีสัมมนาแนะพลเมืองยุคดิจิทัลต้องปรับตัวโดยเรียนรู้และทำความเข้าใจในขีดความสามารถของเทคโนโลยี เพื่อออกคำสั่งควบคุมการใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“เอไอ-หุ่นยนต์-บิ๊กดาต้า” 3 เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่เข้าใกล้มนุษย์เรื่อยๆ เวทีสัมมนาแนะพลเมืองยุคดิจิทัลต้องปรับตัวโดยเรียนรู้และทำความเข้าใจในขีดความสามารถของเทคโนโลยี เพื่อออกคำสั่งควบคุมการใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ตัวอย่างการใช้งานเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกโดยศัลยแพทย์สมองใช้เอไอส่องหาก้อนเนื้อที่ผิดปกติ ซึ่งจะสะท้อนแสงกลับมาเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ เทคโนโลยีเอไอในรูปแบบแชทบอต สามารถโต้ตอบมนุษย์ได้ทันควันจะเป็นผู้ช่วยแนะนำสินค้าให้กับพนักงานขายรวมถึงคอลเซ็นเตอร์


“แชตบอท”ขอเวลาอีก 2 ปี


กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านด้านชีววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ทีเซลส์) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ร่วมกับศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ จัดเวทีสัมมนา “จาก Big Data สู่ AI ไปถึง Robot สังคมไทยรู้ว่าเท่าทันแค่ไหน” เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเข้าใจเทคโนโลยีและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ ตลอดจนทราบแนวทางการใช้ให้ถูกต้องเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและส่วนรวม


นายธนารักษ์ ธีระมั่นคง นายกสมาคมกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย กล่าวว่า สังคมไทยตื่นตัวเตรียมพร้อมสำหรับการมาถึงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ ที่จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตมนุษย์มากขึ้น สังเกตได้จากการที่ภาคการศึกษารวมถึงผู้ประกอบการได้พัฒนาหุ่นยนต์ในรูปแบบต่างๆ ออกมาทดลองใช้หลากหลายฟังก์ชั่น เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ทั้งในอุตสาหกรรม การแพทย์และการบริการ เป็นต้นยกตัวอย่าง หุ่นยนต์ที่ใช้โต้ตอบมนุษย์ แขนกลในโรงงาน หุ่นยนต์ช่วยกายภาพบำบัด จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องร่วมกันสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กดาต้า) เพื่อใช้เป็นแนวทางการพัฒนาไปสู่เทคโนโลยีเอไอ และทำให้หุ่นยนต์อัจฉริยะมากขึ้นโดยเฉพาะการนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เพื่อดูแลผู้สูงอายุ หรือวิเคราะห์อาการผู้ป่วยเบื้องต้น ก่อนที่แพทย์จะเข้ามาทำการรักษา ขณะที่ในต่างประเทศมีความพยายามพัฒนาขีดความสามารถให้ทัดเทียมกับมนุษย์หรือฉลาดกว่าในอนาคต


สำหรับในประเทศไทย เทคโนโลยีเอไอจะเข้ามามีบทบาทในอีก 1-2 ปีข้างหน้าในรูปแบบ “แชตบอท” หรือการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ในรูปแบบการโต้ตอบระหว่างกัน ณ เวลาจริง ผลจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น ทำให้แชตบอทสามารถให้ข้อมูลได้ตรงจุดกับความต้องการของมนุษย์ขึ้นในระดับจิตวิทยา(ในอนาคต) เนื่องจากสามารถประมวลผลผ่านข้อมูลจำนวนมากที่มีเทคโนโลยีเอไอมาสนับสนุน อาทิ ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ ธุรกิจแนะนำสินค้าแทนพนักงานขาย


“โปรแกรมคอมพิวเตอร์จำลองบทสนทนามนุษย์ สามารถสื่อสารผ่านข้อความและเสียงแบบเรียลไทม์ ที่เรียกว่าแชตบอท สามารถนำมาใช้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อแนะนำลูกค้าว่า ควรจะซื้อหรือไม่จากการวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีเอไอร่วมกับบิ๊กดาต้า ทั้งช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนค่าจ้างแรงงาน"


แชตบอทซึ่งเป็นทางเลือกในการทำมาร์เก็ตติ้ง แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ base on rule การสร้างโปรแกรมแชตขึ้นมาแล้วกำหนดค่าต่างๆ ในการตอบคำถาม วิธีนี้จัดการไม่ยุ่งยากมาก รูปแบบถัดมาคือการใช้เอไอเข้ามาช่วย จึงมีความยากในการพัฒนานอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการประมวลผลภาพที่เข้ามาเชื่อมโยงกับสมาร์ทซิตี้ อาทิ ระบบดูแลและตรวจสอบสภาพการจราจร โดยนับจำนวนรถบนถนนในภาพถ่ายด้วยกล้องวงจรปิดในแต่ละช่วงเวลา สามารถเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลเพื่อตอบโจทย์ให้กับตำรวจจราจรรวมทั้งข้อมูลมลพิษในอากาศและอื่นๆ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา


เพิ่มทักษะรับมือผู้ช่วยอัจฉริยะ


นายนเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ทีเซลส์ กล่าวว่า ปัจจุบันการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์และบิ๊กดาต้าในไทยมีความแพร่หลายและก้าวหน้ามากขึ้น เอไอเมื่อเทียบกับมนุษย์ คือ ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลมหาศาล และความรวดเร็วแม่นยำในการประมวลผลเชิงตรรก จึงเหมาะเป็นผู้ช่วยมากกว่าเป็นผู้ตัดสินใจความสามารถในการเข้าถึง เรียนรู้และใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของเอไอ สังคมไทยจึงต้องปรับตัวให้ทันเพื่อรองรับการเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องทางสังคม เพื่อให้รู้เท่าทันและใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมทั้งทางด้านความรู้ สังคม จริยธรรม จึงถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง


ด้าน นายแพทย์ชัยยศ คุณานุสนธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ กล่าวว่า โรงพยาบาลมีโครงการร่วมกับต่างประเทศเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเอไอ เพื่อช่วยการตัดสินใจของแพทย์ทางสมอง ด้วยการใช้ปลายเครื่องตรวจจับส่องแสงไปที่เนื้อเยื่อเป้าหมาย ซึ่งจะสะท้อนแสงกลับมาเพื่อให้แพทย์รู้ว่าเนื้อเยื่อสมองบริเวณนั้นปกติหรือเป็นเนื้อร้าย รวมถึงการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ของผู้ป่วยซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเทคโนโลยีเอไอจะเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตมนุษย์มากขึ้น ถึงขั้นที่ถูกมองว่า อนาคตจะเข้ามาทำงานแทนแพทย์เพราะมีความฉลาดมากขึ้น แต่เขากลับมองว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่ทำให้การทำงานของแพทย์ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเพียงแต่ต้องวางแผนปรับทักษะให้สามารถควบคุมเทคโนโลยีสมองกลเหล่านั้น


พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า ในอนาคตเทคโนโลยีเอไออาจจะก่อผลกระทบต่อหลายอาชีพ แต่ไม่ควรที่จะหยุดพัฒนา เพียงแค่เตรียมตัวให้พร้อมด้วยการเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงขีดความสามารถของเทคโนโลยีเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นและไม่ควรตื่นกลัวผลกระทบที่จะเกิดขึ้น “ผมเชื่อว่ามนุษย์มีความสามารถในการปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดได้”

*******


“โซเฟีย”ต้นแบบพลเมืองเอไอ


ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้ แวดวงเทคโนโลยีต่างจับตามอง Sophia (โซเฟีย) หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ที่ได้รับการออกแบบให้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์เพศหญิง สามารถตอบโต้กับมนุษย์และแสดงสีหน้าแบบต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น การขยับปาก ขมวดคิ้ว ขยับดวงตา ฯลฯ ผลงานการพัฒนาโดยบริษัท Hanson Robotics


นอกจากขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมของสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ถึงบทบาทของเอไอในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในยุคที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เธอยังได้รับการประกาศให้ได้รับสัญชาติและเป็นพลเมืองของซาอุดีอาระเบียอย่างถูกต้องตามกฎหมาย


เดวิด แฮนสัน หัวหน้าทีมวิศวกรและดีไซน์เนอร์ กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญในการพัฒนาหุ่นยนต์โซเฟียคือ การทำให้เอไอมีความรู้สึกนึกคิด มีความคิดสร้างสรรค์และความสามารถใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด เพื่องานด้านการบริการสุขภาพ การศึกษาและการบริการลูกค้าผิวหนังที่สมจริงของโซเฟียทำมาจากซิลิคอนที่จดสิทธิบัตรแล้ว ภายใต้ใบหน้าได้ติดตั้งเซนเซอร์ที่ช่วยให้แสดงออกทางสีหน้าได้ถึง 62 แบบ ส่วนดวงตาฝังกล้องประกอบกับอัลกอริทึมที่ทางบริษัทออกแบบทำให้สามารถมองเห็นและมองตามคู่สนทนา ในส่วนของการพูดนั้นใช้เทคโนโลยีจากกูเกิลและเทคโนโลยีอื่นๆ ช่วยให้จดจำบทสนทนาและโต้ตอบได้อย่างชาญฉลาดตลอดเวลา โซเฟียสามารถจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ และทางบริษัทผู้ผลิตต้องการที่จะผลิตหุ่นยนต์แบบโซเฟียให้กลายเป็นเป็นผู้ดูแลมนุษย์ได้ อาทิ ช่วยเหลือผู้สูงอายุภายในสถานดูแลผู้สูงอายุ หรืองานบริการเพื่อสังคมต่างๆ