วันนี้ในอดีต...44 ปีที่รอคอยของแมนฯซิตี

วันนี้ในอดีต...44 ปีที่รอคอยของแมนฯซิตี

วันนี้เมื่อ 5 ปีก่อน...เซร์คิโอ อเกวโร ยิงประตูชัยในช่วงทดเจ็บ พา "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 44 ปี

       ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2011-12 เป็นอีกปีที่ต้องมาตัดสินแชมป์ในเกมสุดท้าย ระหว่างแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมมหาเศรษฐีรายใหม่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี 86 แต้มเท่ากันเมื่อแข่งขันมา 37 แมตช์ แต่ แมนฯซิตี้มีลูกได้เสียดีกว่า

       คืนวันอาทิตย์ 13 พ.ค. พรีเมียร์ลีกทั้ง 10 คู่จึงลงสนามพร้อมกัน แมนฯยู ออกไปเยือน สเตเดียม ออฟ ไลท์ ของซันเดอร์แลนด์ ส่วน แมนฯซิตี้ เปิดบ้านรับมือ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส

       เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 20 แมนฯยูฯกุมความได้เปรียบ เมื่อขึ้นนำก่อน จากการโหม่งของ เวย์น รูนีย์ ทำให้ ณ เวลานี้ แมนฯยูฯครองแชมป์ มี 89 คะแนน ส่วนแมนฯซิตี้ยังเสมอจึงมีแค่ 87 คะแนน

       นาทีที่ 39 "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นนำได้บ้าง จาก ปาโบล ซาบาเลตา และรักษาสกอร์นี้จนจบครึ่งแรก ทำให้เมื่อครบ 45 นาที แมนฯซิตีได้เป็นแชมป์

       ครึ่งหลัง สถานการณ์พลิกกลับ เมื่อ ควีนสปาร์ค ยิง 2 ประตูรวดแซงนำ 2-1 จาก ฌิบริล ซิสเซ และ เจมี แม็คกี...ถึงนาทีนั้น แมนฯยูคือแชมป์พรีเมียร์ลีก ส่วน "เรือใบสีฟ้า" จังหวะนั้นโรแบร์โต มันชินี ไม่มีอะไรจะเสีย ส่งกองหน้าทุกคนที่มีลงสนามพร้อมกัน ทั้งเอดิน เซโก และ มาริโอ บาโลเตลลี ลงมาผนึกกำลังกับ เซร์คิโอ อเกวโร

       หมด 90 นาที สกอร์ทั้งสองสนามยังไม่เปลี่ยน...แมนฯยูกำลังเตรียมคว้าแชมป์สมัยที่ 20 นักเตะและแฟนบอลเตรียมฉลอง รอเช็กผลจากอีกสนามเท่านั้น

       แต่ช่วงทดเจ็บนาทีเศษ แมนฯซิตี้ตีเสมอได้เป็น 2-2 จาก เอดิน เซโก เท่านั้นยังไม่พอ นาทีที่ 95 ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อ "เรือใบสีฟ้า" มาได้ประตูชัย จากการยิงของ เซร์คิโอ อเกวโร ทำให้แมนฯซิตี เฉือนชนะ คิวพีอาร์ ไป 3-2 

       ส่งผลให้ แมนฯซิตี กลายเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษในปีนี้ หลังห่างเหินมานานถึง 44 ปี โดยมี 89 คะแนนเท่ากับเพื่อนร่วมเมือง แต่ประตูได้เสียดีกว่า...ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด พวกเขาเป็น"แชมป์"หลังจบเกม แต่เป็นแชมป์อยู่แค่ไม่กี่นาทีก็ถูกดึงถ้วยออกจากมือ

       วันนี้เราจะย้อนไปชมบรรยากาศสุดแสนจะดราม่า ณ วันนั้นกันอีกครั้ง...

       (คลิป Youtube // user: Noel Timothy)