ทร.แจงซื้อ 'เรือดำน้ำ' ถูก-คุ้ม-ใช้งานได้จริง!!

ทร.แจงซื้อ 'เรือดำน้ำ' ถูก-คุ้ม-ใช้งานได้จริง!!

"กองทัพเรือ" แจงปมข้อสงสัยซื้อ "เรือดำน้ำ" ยันจำเป็น ชี้ของจีนตอบโจทย์มากที่สุด-ใช้งานในอ่าวไทยได้ ระบุแบ่งจ่าย 17 งวด ใช้งบปกติกองทัพเรือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ได้แถลงข่าวชี้แจง ประเด็นที่สังคมสงสัย โดยระบุถึงความจำเป็นว่าเราไม่มีเรือดำน้ำมากว่า 60 ปี ขณะที่ประเทศต่างๆในภูมิภาคก็มีเรือดำน้ำเข้าประจำการ จากการที่เราไม่มีมาเป็นเวลานานทำให้สูญเสียขีดความสามารถในด้านนี้ อย่างสิ้นเชิง การจัดหาครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดและเป็นการวางรากฐานในการทำสงครามใต้น้ำ

"ประเด็นเรื่องความลึกของอ่าวไทยที่ลึก 50 เมตรนั้น เรือดำน้ำขนาดกลางสามารถปฏิบัติการณ์ได้สบายๆ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เรือดำน้ำจากสหรัฐและชาติพันธมิตรก็มาปฏิบัติการณ์หลายครั้งและสร้างความเสียหายต่อประเทศไทยอย่างมาก นอกจากนี้ ปัจจุบันกองทัพเรือยังฝึกกับเรือดำน้ำสหรัฐขนาด 6,000 ตัน เป็นประจำ ซึ่งเรือดำน้ำของสหรฐก็สามารถปฏิบัติการณ์ได้ไม่มีปัญหา"

ทั้งนี้ความเป็นมาของโครงการ มีการระบุว่าเกือบได้ซื้อเรือดำน้ำมาแล้ว 3 ครั้งคือเมือปี 2538 2553 และ 2554

ส่วนหลักในการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนนั้น ระบุว่ากองทัพเรือได้ศึกษาเปรียบเทียบข้อเสนอจากบริษัทผู้ผลิตจาก 6 ประเทศ ซึ่งข้อเสนอจากจีน เป็นข้อเสนอที่ตอบโจทย์มากที่สุด ทั้งเรื่องขีดความสามารถ ความต่อเนื่องของอาวุธการใช้งาน และความสามารถในการจ่ายได้ โดยเรือรุ่นนี้เป็นเรือดำน้ำดีเซลไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจากจีน ที่เป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นกองเรือดำน้ำที่ยิ่งใหญ่อันดับต้นๆของโลก และกองเรือดำน้ำของจีนมีการปฏิบัติการจริงในทะเลมากที่สุดในโลกทำให้เชื่อว่า เป็นเรือที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือเพียงพอ

ส่วนความคุ้มค่า มีการชี้แจงว่า หากคิดมูลค่าในสิ่งที่ได้เพิ่มเติมถือว่าคุ้มมาก หากซื้อของจำนวนย่อยก็จะได้ราคาแพงกว่า
นอกจากนี้กองทัพเรือจีนยังยินดีสนับสนุนเพิ่มจำนวนที่นั่งในการฝึกอบรมตามหลักสูตรต่างๆ อีกด้วย ขณะที่กระทรวงกลาโหมจีนยืนยันจะพิจารณาให้การสนับสนุนด้านอาวุธที่มีความสำคัญตอ่การปฏิบัติการทางยุทธการ และการฝึกเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก

สำหรับการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี เป็นการลดความเสี่ยงและเพิ่มความเชื่อมั่นในโครงการ จะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้จากท้ั้งส่วนกลางและภาคส่วนต่างๆ

"งบประมาณที่ใช้จัดหานั้น จำนวน 13,500 ล้านบาท จะแบ่งผ่อนชำระเป็นเวลา 7 ปี งวดชำระเงิน 17 งวด ค่าเฉลี่ยปีละ 2,100 ล้านบาท ซึ่งไม่เป็นภาระต่องบประมาณของประเทศ โดยเป็นงบปกติของกองทัพเรือ"