'คลัง' ตั้งเป้าแก้ 'หนี้นอกระบบ' แสนล.

'คลัง' ตั้งเป้าแก้ 'หนี้นอกระบบ' แสนล.

คลังเชื่อ"มาตรการรัฐ"แก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้ทั้งหมด 1 แสนล้านบาท เตรียมเปิดจดทะเบียนพิโคไฟแนนซ์ภายใน 1 เดือนนี้ ผ่านสศค.,ออมสินและธกส

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ตั้งเป้ามาตรการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา จะสามารถช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้ทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีหนี้นอกระบบอยู่ประมาณ 1 แสนล้านบาท

“เราไม่รู้ว่าตัวเลขจริงๆของหนี้นอกระบบมีเท่าไหร่ แต่จากข้อมูลที่เคยสำรวจไว้ มีประมาณ 1 แสนล้านบาท ขณะที่สินเชื่อในระบบมีอยู่ 19.5 ล้านล้านบาท จึงคาดว่าตัวเลขในปัจจุบันน่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน การแก้หนี้นอกระบบในรอบนี้เราตั้งเป้าไว้สูง อยากแก้หนี้นอกระบบได้ทั้งหมด 1 แสนล้านบาท หรือให้มีเหลือน้อยที่สุด”

โดยหลังจากนี้ประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบ สามารถไปลงทะเบียนเพื่อขอไกล่เกลี่ยหนี้ได้ที่อัยการทุกจังหวัด รวมถึงสาขาของธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เพื่อเปลี่ยนหนี้นอกระบบให้เข้ามาอยู่ในระบบ ผ่านออมสินและธ.ก.ส.

สำหรับฝั่งเจ้าหนี้นอกระบบนั้น ก็ให้มาจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการพิโคไฟแนนซ์ เพื่อปล่อยกู้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้จดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการพิโคไฟแนนซ์ได้ภายใน 1เดือนหลังจากนี้ เพราะต้องรอให้ประกาศกระทรวงการคลังในเรื่องนี้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาก่อน

โดยสามารถจดทะเบียนได้ที่สศค. และสาขาของธนาคารออมสิน และธ.ก.ส. หลังเกณฑ์คือจะต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท และต้องใช้เงินทุนของตัวเองในการปล่อยกู้ ห้ามระดมทุนโดยเด็ดขาด ปล่อยกู้ต่อรายไม่เกิน 5 หมื่นบาท คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 36% และจะปล่อยกู้ได้เฉพาะในพื้นที่จังหวัดที่ขอจดทะเบียนเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบการพิโคไฟแนนซ์เกิดขึ้นทุกจังหวัด หรือมีมากกว่า 100 รายทั่วประเทศ