คลังเตรียมชม'ภาษีที่ดิน' เข้าครม.7มิ.ย.นี้

คลังเตรียมชม'ภาษีที่ดิน' เข้าครม.7มิ.ย.นี้

"ปลัดคลัง" คาดนำร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ เข้าครม.สัปดาห์นี้ ระบุบ้านราคาต่ำกว่า 50 ลบ.ไม่เสียภาษี พร้อมสั่งกรมธนารักษ์เร่งประเมินราคา

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ คาดว่าจะมีการนำร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเข้าพิจารณา หลังจากกระทรวงการคลังได้นำเสนอให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้เห็นชอบแล้ว โดยหลักการกฎหมายฉบับดังกล่าว จะแบ่งการจัดเก็บออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทแรก สำหรับผู้ที่มีที่อยู่อาศัยหลังเดียวราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้นการจัดเก็บภาษี ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป จะเสียภาษีโดยมีอัตราเพดานสูงสุดที่ 0.5% ด้านผู้ที่มีที่อยู่อาศัย หรือมีบ้านตั้งแต่ 2 หลังขึ้นไป จะเสียภาษีทันทีตั้งแต่บาทแรก โดยมีอัตราเพดานสูงสุดที่ 0.5%

ส่วนประเภทที่ 2 คือ กลุ่มพื้นที่เกษตรกรรม โดยมีอัตราเพดานสูงสุดที่ 0.2% กลุ่มที่ 3 สำหรับพาณิชย์ อุตสาหรรม จะเสียภาษีโดยมีอัตราเพดานสูงสุดที่ 2% และกลุ่มที่ 4 คือ กลุ่มที่ดินรกร้าง ว่างเปล่าและไม่ใช้ประโยชน์ จะต้องเสียภาษีโดยมีอัตราเพดานสูงสุดที่ 5% สำหรับในปีที่ 1-3 หลังจากนั้น หากไม่ได้มีการทำประโยชน์ในปีที่ 4-6 จะเก็บเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

"ที่ผ่านมาเราพยายามผลักดัน แต่ก็จะถูกโจมตีตลอดว่าจะแกล้งคนจนทำไม แต่ในครั้งนี้เราเริ่มตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป คนที่มีบ้านราคาดังกล่าวเชื่อว่าไม่มีทางจนแน่นอน ใครที่มีบ้านหลังแรกต่ำกว่า 50 ล้านบาทก็ได้รับการยกเว้นไป แต่หากมี 2 หลังจะต้องเสียตั้งแต่บาทแรกทันที"นายสมชัย กล่าว

ส่วนการจัดเก็บรายได้ในส่วนดังกล่าวนั้น จะเก็บให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ได้เป็นเงินของรัฐยืนยันว่าไม่ได้ถังแตกแล้วจะมาเก็บภาษีดังกล่าว ส่วนอัตราภาษีที่เก็บนั้นเป็นแบบอัตราก้าวหน้า หรือขั้นบันได ไม่ได้เก็บแบบเต็มเพดาน

สำหรับกระบวนการนั้น หลังจากครม.พิจารณาเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2560 ขณะเดียวกันจะของบประมาณจากครม. เพื่อให้กรมธนารักษ์ไปสำรวจและประเมินข้อมูลของราคาที่ดิน ซึ่งจะสำรวจทั่วประเทศและถือเป็นการอัพเดทข้อมูลทั้งหมด โดยจะต้องแล้วเสร็จก่อนที่จะมีการประกาศใช้

"เราจะของบประมาณให้กรมธนารักษ์ไปจัดเก็บข้อมูล ซึ่งอธิบดีก็รับปากแล้วว่าจะแล้วเสร็จก่อนการประกาศใช้แน่ หากไม่แล้วเสร็จอธิบดีก็ต้องไปมันต้องทำให้ได้"นายสมชัย กล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าในปีแรกที่มีการจัดเก็บภาษีดังกล่าว จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 60,000 ล้านบาท จากปัจจุบันจัดเก็บรายได้ภาษีท้องถิ่นอยู่ที่ 20,000-30,000 ล้านบาท